Tuesday, August 26, 2014

น้ำหนักควบคุมได้ ทำไมต้องพึ่งยาลดความอ้วน



           "อ้วน อ้วน.....ใครใครก็หาว่าเธอน่ะอ้วน" สาว ๆ หลายคนคงรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมาทันที ถ้าหากมีใครมาทักว่า "อ้วน" ทำให้ปัจจุบันกระแสการลดน้ำหนักจึงเป็นที่นิยมไม่เสื่อมคลาย
          ยิ่งมีวิธีทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เวลามาก แต่เห็นผลเร็วอย่าง "การใช้ยา หรือวิตามินลดความอ้วน" โดยมีการโฆษณาชวนเชื่อถึงสรรพคุณต่าง ๆ ที่ทำให้ผอมเพรียวได้ในเวลาอันรวดเร็ว ก็ยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่า การใช้ยาหรือวิตามินลดความอ้วนเป็นอันตรายต่อร่างกายและชีวิตเป็นอย่างมาก

          อาจารย์ สาธิก ธนะทักษ์ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือ โค้ชเป้ง ได้พูดถึงอันตรายของยาลดความอ้วนว่า การบริโภคยา หรือวิตามินลดความอ้วน มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเบื้องต้นเมื่อผู้บริโภคใช้ได้สักระยะหนึ่งจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและเป็นโรคขาดสารอาหาร ส่วนผลกระทบด้านอารมณ์และจิตใจ ตามปกติถ้าเราไม่ได้กินอาหาร หรือกินในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อร่างกาย ทำให้ขาดพลังงานและรู้สึกหิว เกิดอาการหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน ซึ่งผู้ใช้ยาลดความอ้วนก็มีอาการเช่นเดียวกัน

          "ส่วนปฏิกิริยาที่เรียกว่า "โยโย่ เอฟเฟคท์" คือ การลดน้ำหนักมากเท่าไหร่ ก็จะกลับมามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเรื่องอายุ และเพศก็มีส่วนเกี่ยวข้องเหมือนกัน เพราะผู้หญิงมีกล้ามเนื้อน้อยกว่าผู้ชาย จึงมีการเผาผลาญน้อยกว่า ทำให้มีโอกาสเกิดโยโย่ เอฟเฟคท์ ได้ง่ายและมากกว่าผู้ชาย ส่วนผู้ที่มีอายุมากจะมีโอกาสเกิดได้ง่ายและเยอะกว่าวัยหนุ่มสาว"อาจารย์สา ธิก อธิบายเพิ่มเติม


เริ่มต้นควบคุมน้ำหนัก ควรทำอย่างไร ?

          โค้ชเป้ง แนะนำว่า จริง ๆ แล้วการดูแลสุขภาพเป็นขั้นตอนที่ต้องทำทั้งชีวิต ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทุกอย่างพร้อมกันภายในครั้งเดียว แต่ควรปรับไปทีละขั้น สัปดาห์แรกอาจเริ่มจากลดเครื่องดื่มน้ำอัดลม 3 ขวด เหลือเพียงขวดเดียว และลดจำนวนลงในสัปดาห์ถัดไป

          เมื่อทำครบหนึ่งสัปดาห์ก็เริ่มตั้งเป้าหมายใหม่ เป็นการกินข้าวเย็นน้อยลง แต่ต้องลดเครื่องดื่มน้ำอัดลมควบคู่ไปด้วย สัปดาห์ถัดมาอาจจะเพิ่มกิจกรรมทางกาย จากขึ้นลิฟต์เป็นเดินขึ้นบันไดแทน เพียงเพิ่มกิจกรรมใหม่สัปดาห์ละหนึ่งอย่าง และทำกิจกรรมเก่าไปพร้อม ๆ กันด้วย แต่ต้องทำต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จึงจะได้ผลอย่างยั่งยืน
 
กิจกรรมทางกาย มีอะไรบ้าง

          กิจกรรมทางกาย มีตั้งแต่นอนหลับถึงตื่น ทุกอิริยาบทที่เผาผลาญแคลอรี่ได้เป็นกิจกรรมทางกายทั้งหมด องค์การอนามัยโลกให้คำแนะนำว่า ถ้าต้องการมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดี ควรมีกิจกรรมทางกายที่มีความหนักระดับปานกลางบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที กิจกรรมระดับปานกลางจะสังเกตได้จากปฏิบัติแล้วหัวใจมีการเต้นแรง หายใจแรง อย่างเช่น การขึ้นบันได วิ่งจ๊อกกิ้ง เดินเร็ว หรืออะไรก็ตามที่ทำให้หัวเต้นและหายใจแรง


ควบคุมน้ำหนักถูกวิธี โดยไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน

          "กินอาหารครบมื้อ แต่ละมื้อครบหมู่" เป็นหลักง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ เพราะการงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นมื้อเช้าและมื้อเย็น แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ใช้น้ำมันมาก ทั้งอาหารประเภททอดและผัด ควรกินผัก ผลไม้เยอะ ๆ เพราะไม่มีแคลอรี่ และมีไฟเบอร์สูงสามารถดูดซับไขมัน และขับออกทางอุจจาระ ซึ่งปลอดภัยกว่ายาลดความอ้วน

          อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของการควบคุมน้ำหนักอีกอย่างหนึ่งคือ "งดหวาน" ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ขนมต่าง ๆ ที่มีแป้ง ไขมัน และน้ำตาลในปริมาณสูง รวมไปถึงเครื่องดื่มที่มีรสหวาน น้ำอัดลม นมเปรี้ยว ก็ควรหลีกเลี่ยง และควรดื่มน้ำเปล่าแทน" โค้ชเป้ง แนะนำ

          ในเมื่อรักที่จะมีรูปร่างดีแล้ว ก็อย่าลืมรักตัวเองด้วย เพราะการลดความอ้วนให้เห็นผลและมีสุขภาพดีนั้น มีหลายวิธีให้เลือกปฏิบัติ อย่าใช้ "หนทางลัด" ซึ่งเป็นวิธีที่ทำร้ายตัวเราเองเลยค่ะ 


เรื่องโดย พิมพ์ชนก ศรเพชร Team Content www.thaihealth.or.th
แหล่งที่มา  สสส., http://health.kapook.com/view70924.html

No comments:

Post a Comment