เทคโนโลยีสำหรับเด็กสมัยนี้รวดเร็วติดจรวดมากค่ะ แตกต่างจากสมัยรุ่นเราเอ๊าะ
ๆ กว่าจะได้เล่นคอมพ์ก็ปาเข้าเรียนมัธยมหรือไม่ก็มหาวิทยาลัยโน่นเลย โดยเฉพาะเรื่องการแชทแล้ว
ไม่ว่าจะผ่านโปรแกรมยอดฮิตอย่าง Facebook, MSN, Whatsapp หรือ Line
ก็มีเรื่องที่น่าห่วงหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งจะห้ามไม่ให้เล่นก็ดูจะใจร้ายไปหน่อยค่ะ
ทางออกที่ดีก็คือ การติดตั้งวัคซีนป้องกันภัยให้ลูกจะดีกว่า
1.ต้องวางคอมพิวเตอร์หรือไอแพด อะไรก็ตามแต่ ไว้ในที่ ๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตการณ์ใช้อินเทอร์เน็ตของลูก ๆ ได้สะดวก
2.ต้องไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ โรงเรียน อีเมล หรือกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มออนไลน์
3.ต้องไม่นัดพบคนแปลกหน้าที่เจอกันตอนออนไลน์โดยไม่มีพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ โดย ข้อมูลจากมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า มีผู้สูญหายหลังจากตามไปนัดหมายทางอินเทอร์เน็ต 21 ราย มีเด็กอายุน้อยที่สุด 8 ปี และอายุมากที่สุด 28 ปีค่ะ
4.ต้องไม่เข้าห้องสนทนา (Chat room) โดย ที่ไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย เด็กบางคนที่ลูกเจอตอนออนไลน์อาจเป็นผู้ใหญ่ที่มีเจตนาหลอกลวง และสอนเขาให้จำไว้ว่า คนอาจจะไม่ได้เป็นคนที่เขาบอกว่าเขาเป็น
5.ต้องไม่บอกใครตอนออนไลน์ว่า ลูกจะอยู่ที่ไหน หรือจะทำอะไรโดยไม่รับอนุญาตจากพ่อแม่
6.อย่าส่งหรือตอบอีเมลไปยังคนแปลกหน้าที่เจอตอนออนไลน์เด็ดขาด รวมทั้งพวกเว็บโฆษณาขายสินค้า (spam mail) ต่าง ๆ
7.ระมัดระวังไม่เข้าไปยังเว็บที่ต้องเสียเงินเพิ่ม โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากพ่อแม่
8.ต้องไม่ส่งรูปถ่ายไปตามเว็บหรืออีเมลโดยพ่อแม่ไม่อนุญาต เพราะภาพของหนูอาจถูกนำไปตัดต่อหรือใช้เพื่อการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายหรือเป็นอันตราย
9.อย่าโต้ตอบกับอีเมลหยาบคาย ข่มขู่ คุกคาม หรืออีเมลที่ทำให้ไม่สบายใจ จดชื่ออีเมลนั้นไปแจ้งพ่อแม่ หรือครู เพื่อจะได้ทำการปิดกั้นหรือจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งตามความเหมาะสมต่อไป
10.พูดคุยกับลูกเพื่อร่วมกันกำหนดกฎกติกาการออนไลน์ของลูกว่า ควรเล่นกี่ชั่วโมงต่อวันธรรมดาหรือวันหยุด กิจกรรมออนไลน์ที่ทำได้และทำไม่ได้ พื้นที่หรือเว็บไซต์ที่ต้องห้าม ฯลฯ ถ้าฝ่าฝืนกฎกติกาจะมีบทลงโทษอย่างไรให้ชัดเจน
1.ต้องวางคอมพิวเตอร์หรือไอแพด อะไรก็ตามแต่ ไว้ในที่ ๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตการณ์ใช้อินเทอร์เน็ตของลูก ๆ ได้สะดวก
2.ต้องไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ โรงเรียน อีเมล หรือกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มออนไลน์
3.ต้องไม่นัดพบคนแปลกหน้าที่เจอกันตอนออนไลน์โดยไม่มีพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ โดย ข้อมูลจากมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า มีผู้สูญหายหลังจากตามไปนัดหมายทางอินเทอร์เน็ต 21 ราย มีเด็กอายุน้อยที่สุด 8 ปี และอายุมากที่สุด 28 ปีค่ะ
4.ต้องไม่เข้าห้องสนทนา (Chat room) โดย ที่ไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย เด็กบางคนที่ลูกเจอตอนออนไลน์อาจเป็นผู้ใหญ่ที่มีเจตนาหลอกลวง และสอนเขาให้จำไว้ว่า คนอาจจะไม่ได้เป็นคนที่เขาบอกว่าเขาเป็น
5.ต้องไม่บอกใครตอนออนไลน์ว่า ลูกจะอยู่ที่ไหน หรือจะทำอะไรโดยไม่รับอนุญาตจากพ่อแม่
6.อย่าส่งหรือตอบอีเมลไปยังคนแปลกหน้าที่เจอตอนออนไลน์เด็ดขาด รวมทั้งพวกเว็บโฆษณาขายสินค้า (spam mail) ต่าง ๆ
7.ระมัดระวังไม่เข้าไปยังเว็บที่ต้องเสียเงินเพิ่ม โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากพ่อแม่
8.ต้องไม่ส่งรูปถ่ายไปตามเว็บหรืออีเมลโดยพ่อแม่ไม่อนุญาต เพราะภาพของหนูอาจถูกนำไปตัดต่อหรือใช้เพื่อการอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายหรือเป็นอันตราย
9.อย่าโต้ตอบกับอีเมลหยาบคาย ข่มขู่ คุกคาม หรืออีเมลที่ทำให้ไม่สบายใจ จดชื่ออีเมลนั้นไปแจ้งพ่อแม่ หรือครู เพื่อจะได้ทำการปิดกั้นหรือจัดการอย่างใดอย่างหนึ่งตามความเหมาะสมต่อไป
10.พูดคุยกับลูกเพื่อร่วมกันกำหนดกฎกติกาการออนไลน์ของลูกว่า ควรเล่นกี่ชั่วโมงต่อวันธรรมดาหรือวันหยุด กิจกรรมออนไลน์ที่ทำได้และทำไม่ได้ พื้นที่หรือเว็บไซต์ที่ต้องห้าม ฯลฯ ถ้าฝ่าฝืนกฎกติกาจะมีบทลงโทษอย่างไรให้ชัดเจน
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment