รู้หรือไม่ว่ามีของหลายชนิดที่ไม่ควรนำเข้าไมโครเวฟ
เพราะอาจเกิดอันตรายอย่างที่คาดไม่ถึง เช็คหน่อยซิมีอะไรบ้าง
เชื่อว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้ไมโครเวฟในการอุ่นอาหารแทบจะทุกชนิด
สาเหตุก็เพราะว่ามันสะดวกกว่าการที่จะนำไปอุ่นบนเตาแก๊ส แถมยังใช้เวลาน้อย แค่เพียงเอาออกมาจากตู้เย็นหรือแกะจากถุงใส่ภาชนะเอาเข้าไมโครเวฟ
ไม่กี่นาทีก็ได้อาหารร้อน ๆ มารับประทาน แต่รู้หรือไม่ว่าการนำของเข้าไมโครเวฟสุ่มสี่สุ่มห้าก็สามารถทำให้อาหารที่เรานำเข้าไปอุ่นนั้นกลายเป็นยาพิษทำร้ายสุขภาพเราได้เลยนะ เราไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างที่ไม่ควรนำเข้าไมโครเวฟอย่างยิ่ง
นมแม่
นมแม่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับเด็กวัยแรกเกิด
ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ช่วยให้เด็กเจริญเติบโตและเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่เด็ก
แต่ถ้าหากเอาน้ำนมแม่ที่คั้นออกมาไปในไมโครเวฟล่ะก็
จากที่มีประโยชน์ก็จะกลายเป็นโทษแทน เพราะอุณหภูมิที่พอเหมาะของไมโครเวฟนั่นล่ะจะทำให้เชื้อแบคทีเรียอีโคไลในน้ำนมเติบโตขึ้นถึง 18 เท่า
ซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กมากเลยนะเออ
บรอกโคลี
บรอกโคลี เป็นผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูง
หากนำผ่านกรรมวิธีใด ๆ เพื่อทำให้สุกก็ทำให้สารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระเสียไปแล้วประมาณ 11% แต่ถ้านำบรอกโคลีใส่น้ำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟล่ะก็
จะสูญเสียสารต้านอนุมูลอิสระไปถึง 97% เลยเชียวล่ะ
ผลไม้แช่แข็ง
การแช่แข็งเป็นการรักษาคุณค่าทางอาหารอีกทางหนึ่ง
ทำให้ผักและผลไม้ที่แช่แข็งนั้นยังคงมีสารอาหารครบถ้วนอยู่ แต่ห้ามนำผักผลไม้แช่แข็งไปเข้าไมโครเวฟเด็ดขาด
โดย Dr.Lita Lee ผู้เชี่ยวชาญจากฮาวาย
ซึ่งได้ทำการวิจัยเตือนว่า การนำผักผลไม้แช่แข็งไปเข้าไมโครเวฟจะทำให้น้ำตาลที่อยู่ในผลไม้ที่เรียกว่า
Glucoside และ Galactyoside แตกตัวและกลายเป็นสารก่อมะเร็งได้
เนื้อสัตว์
การนำเอาเนื้อสัตว์แช่แข็งไปละลายในไมโครเวฟ
จะทำให้เชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อร่างกายเจริญเติบโต เพราะฉะนั้นหากนำมาละลายแล้วก็ควรจะใช้เนื้อสัตว์ให้หมดภายในคราวเดียว
นอกจากนี้ผลการวิจัยจากญี่ปุ่นเผยว่า การนำเอาเนื้อสัตว์ไปอุ่นในไมโครเวฟเกิน 6
นาที จะทำให้วิตามิน B 12 ในเนื้อสัตว์ลดลงไปครึ่งหนึ่งเลยล่ะ วิธีการละลายน้ำแข็งจากเนื้อสัตว์ที่ดีที่สุดคือการนำไปแช่น้ำอุ่นหรือนำลงมาแช่ในช่องธรรมดาไว้ก่อนการทำอาหาร
1 คืน
ไข่
อย่าไปเชื่อว่าการต้มไข่ในไมโครเวฟนั้นสามารถทำได้
การต้มไข่ในไมโครเวฟไม่มีทางสำเร็จ แถมยังจะเป็นสร้างงานให้กับตัวเองอีกด้วย
เพราะเมื่อน้ำไข่ไปต้มในไมโครเวฟ ไข่จะเกิดการระเบิดและก็จะเปื้อนไปทั้งตู้ไมโครเวฟ
นอกจากจะไม่ได้กินไข่แล้วยังต้องเสียเวลามาทำความสะอาดอีกนะ
ผลไม้
การนำผลไม้เข้าไมโครเวฟนั้น
ก็เหมือนการทำลายไมโครเวฟวิธีหนึ่งเลยล่ะ เพราะผลไม้บางชนิดไม่ทนทานต่อความร้อนของไมโครเวฟ
ยกตัวอย่างเช่น องุ่น หากนำองุ่นเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟล่ะก็ องุ่นก็จะระเบิด และแห้งลงกลายเป็นลูกเกด
แต่นั่นไม่ใช่เรื่องดี เพราะถ้าหากมันแห้งลงแล้วมันจะเริ่มปล่อยพลาสมาออกมาจำนวนมากและทำให้ไมโครเวฟของคุณไหม้ !
ซอสสีแดงที่ไม่มีฝาปิด
ก็ไม่เชิงว่าจะนำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟไม่ได้เสียทีเดียว
แต่ถ้าหากจะอุ่นก็ควรมีฝาปิดและเปิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะถ้าหากคุณไม่ปิดฝา
เวลาที่มันเดือด ซอสเหล่านี้ก็จะระเบิดและเปื้อนไปทั่วตู้ไมโครเวฟให้คุณต้องได้ทำความสะอาดอีกแน่นอน
พริก
การนำพริกเข้าไมโครเวฟไม่ได้ส่งผลให้สารอาหารในพริกเสียหาย
ยกเว้นแต่ว่ามันจะไหม้ และถ้าคุณเปิดฝาไมโครเวฟออก สารเคมีในพริกก็จะเข้าตาและเข้าจมูกของคุณ
แน่นอนว่ามันคงไม่สนุกแน่ ๆ
น้ำ
การต้มน้ำไมโครเวฟไม่มีทางสำเร็จได้แน่นอน
เพราะถึงแม้น้ำจะร้อนขึ้น แต่ภาชนะก็คงยังเย็นอยู่ดี
แถมถ้าใส่ถุงชาลงไปในแก้วน้ำแล้วนำไปอุ่น ถุงชาก็จะระเบิดอีกด้วย
แต่ถ้าจำเป็นต้องต้มน้ำในไมโครเวฟจริง ๆ ล่ะก็ ขอแนะนำให้หาแท่งคนแก้วหรือช้อนที่สามารถเอาเข้าไมโครเวฟได้ลงไปด้วย
ก็จะทำให้สามารถต้มน้ำได้
ขนมปัง
การนำขนมปังเข้าไมโครเวฟจะทำให้ขนมปังนั้นกินไม่ได้
เพราะเพียงแค่นำขนมปังเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟเพียง 10 วินาที หรือมากกว่านั้น ก็จะทำให้ขนมปังเสียความชุ่มชื้นและทำให้ขนมปังแข็ง
และเหม็นไปเลยล่ะ
ภาชนะใส่อาหารที่ทำจากพลาสติก
พลาสติก นั้นทำมาจากสารเคมีซึ่งอันตรายต่อสุขภาพ
ถ้าหากเรานำอาหารที่ใส่ภาชนะที่ทำจากพลาสติกเข้าไมโครเวฟล่ะก็ สารพิษที่อยู่ในพลาสติกก็จะกระจายเข้าสู่อาหารทำให้อาหารนั้นกลายเป็นพิษต่อร่างกายได้
กล่อง - ถุงกระดาษ
กล่อง และถุงกระดาษควรอยู่ให้ไกลจากไมโครเวฟ
เพราะถ้าหากนำทั้งสองสิ่งนี้เข้าไปในไมโครเวฟล่ะก็ จะทำให้ไฟไหม้ไมโครเวฟได้เลย แถมสารเคมีที่อยู่ในกระดาษก็ยังจะตลบอบอวลเต็มตู้
ซึ่งถ้าหากนำอาหารไปอุ่นต่อ สารเคมีเหล่านั้นก็จะลงไปอยู่ในอาหารนั่นเอง
ถ้วยโยเกิร์ต
ถ้วยโยเกิร์ตเป็นภาชนะที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง
ไม่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้เนื่องจากมันไม่ทนทานต่อความร้อนสูง ถ้าหากเรานำเข้าไมโครเวฟละก็ถ้วยเหล่านี้ก็จะละลาย
แถมสารเคมีที่มีในเนื้อถ้วยนั้นก็เป็นอันตรายอีกด้วย
ภาชนะจากโฟม
เช่นเดียวกับพลาสติก
โฟมไม่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ แถมมันยังสามารถไหม้ได้อีกด้วย
เหล็ก หรืออะลูมิเนียม
แค่เพียงเศษเสี้ยวเล็ก ๆ
ของภาชนะ ถ้าหากมีส่วนของเหล็กหรืออะลูมิเนียมล่ะก็ อาจจะทำให้ไมโครเวฟของคุณระเบิดได้
เพราะแค่เพียงส่วนเล็ก ๆ ก็สามารถจะส่งผ่านพลาสมาไปยังไมโครเวฟและทำให้เกิดการช็อตจนอาจจะระเบิดได้
แก้วเก็บความร้อน
แก้วเก็บความร้อนนั้นส่วนใหญ่ทำมาจากสแตนเลสที่กักเก็บความเย็นได้
เช่นเดียวกับภาชนะเหล็กและอะลูมิเนียม หากนำเข้าไมโครเวฟนอกจากมันจะไม่ทำให้น้ำที่อยู่ด้านในร้อนขึ้นมาแล้วยังอาจ
จะทำให้ไมโครเวฟพังได้อีกด้วยล่ะ
ฟลอยอลูมิเนียม
ฟลอยอะลูมิเนียมนั้นไม่ได้ทำให้ไมโครเวฟเกิดการช็อตได้อย่างเดียว
แต่ถ้าหากนำมันเข้าไปในไมโครเวฟ ก็อาจจะทำให้เกิดไฟลุกไหม้ในไมโครเวฟได้อีกด้วย
แผ่นพลาสติกใส
แผ่นพลาสติกใสที่ใช้ในการห่ออาหารมีอันตรายพอ
ๆ กับภาชนะที่ทำจากพลาสติก ถึงแม้ว่าจะนำเข้าไมโครเวฟได้
แต่ก็เป็นอันดรายต่อร่างกายมากเช่นกัน เพราะถ้าหากแผ่นพลาสติกนั้นโดนน้ำมันหรือไขมันในอาหารในขณะที่อุ่นอยู่ในไมโครเวฟก็จะทำให้สารเคมีในพลาสติกละลายและลงสู่อาหารซึ่งสารเคมีนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งหรือเป็นหมันได้
ฟองน้ำ
จริง อยู่ที่การนำฟองน้ำที่ใช้แล้วเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา
30 วินาทีแล้วจะทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในฟองน้ำตายได้ แต่มันกลับมีข้อเสียมากกว่าข้อดี
เพราะมันจะทำให้ครัวของคุณเหม็นไปด้วยกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จากการอุ่นฟองน้ำ
ดังนั้น ถ้าฟองน้ำที่ใช้อยู่มันเก่าแล้วก็เปลี่ยนเถอะค่ะ
ไม่ใส่อะไรไว้ในไมโครเวฟ
ถ้าหากคุณเปิดเครี่องไมโครเวฟโดยไม่ได้ใส่อะไรเข้าไปในเครื่อง
ใช่ว่ามันจะไม่เป็นอะไร แต่มันจะสามารถทำให้ไมโครเวฟพังได้เลยค่ะ เพราะเมื่อนำอาหารเข้าไปอุ่นไมโครเวฟ
มันจะซึมซับทุกอย่างเอาไว้ และถ้าไม่มีอะไรอยู่ในไมโครเวฟขณะที่อุ่นล่ะก็ ไมโครเวฟจะเริ่มซึมซับแมกนีตรอนที่อยู่ในคลื่นไมโครเวฟและเริ่มทำลายตัวเอง
ไมโครเวฟ เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ช่วยทำให้เราสะดวกสบายขึ้นก็จริง
แต่ก็ควรใช้ให้ถูกวิธี เพราะราคาของเครื่องก็ไม่ใช่น้อย ๆ แถมถ้าเกิดเราต้องล้มป่วยเพราะเราใช้ไมโครเวฟอุ่นอาหารอย่างผิดวิธี
มันก็คงไม่คุ้มกันใช่ไหมคะ
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment