Saturday, January 31, 2015

20 เทคนิคจัดระเบียบบ้าน ให้ชีวิตง่ายขึ้นเห็น ๆ




           เทคนิคจัดระเบียบบ้านแบบง่าย ๆ เปลี่ยนบ้านรก ๆ ให้สะอาดเอี่ยม ด้วยเคล็ดลับที่จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไม่ต้องเบื่อกับการจัดการบ้านอีกต่อไป

           หากใครเป็นคนบ้านรก ก็ยอมรับมาซะดี ๆ ว่าชีวิตคุณเองก็ดูยุ่งเหยิงไปด้วยใช่ไหม เพราะบ้านที่รกอัดแน่นไปด้วยข้าวของมากมาย จะทำให้เราต้องเสียเวลาค้นหา จนกระทบกับเรื่องอื่น ๆ ไปหมด วันนี้กระปุกดอทคอมจึงมี 20 เคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยจัดระเบียบบ้านพร้อมจัดระเบียบชีวิตไปในตัวด้วย จากเว็บไซต์ buzzfeed ลองนำไปทำตามกันดู แล้วจะรู้ว่าชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลยจริง ๆ นะ


1. ดาวน์โหลดคู่มืออิเล็กทรอนิกส์

           ทุกครั้งที่ซื้อเครื่องไฟฟ้าใหม่ ลองสอบถามพนักงานว่า จะสามารถดาวน์โหลดคู่มือทางออนไลน์มาเก็บไว้ได้อย่างไร วิธีนี้จะช่วยลดปริมาณคู่มือไม่ให้รกบ้าน แล้วอย่าลืมทิ้งคู่มือแบบกระดาษเมื่อเลยกำหนดเวลาเปลี่ยนสินค้าด้วย


2. ถือกฎกำจัดสิ่งของ 5 ชิ้น

           ทุกครั้งที่เก็บกวาดบ้าน ให้ตั้งกฎไว้ว่าจะกำจัดสิ่งของ 5 ชิ้นออกไป ไม่ว่าจะเป็นขยะ นิตยสารเก่า เครื่องสำอางหมดอายุ หรืออะไรก็ตามที่ไม่ได้ใช้มาเป็นเวลานาน ลองทำตามแล้วรับรองว่าบ้านจะสะอาดขึ้นเห็น ๆ


3. ใช้ตัว S แขวนกระเป๋า

           เก็บกระเป๋าด้วยวิธีแขวนด้วยตัว S ในตู้เสื้อผ้า จะช่วยให้เป็นระเบียบเรียบร้อยหยิบใช้ได้ง่าย โดยวิธีนี้ยังใช้ได้ดีกับสิ่งของไม่มีที่เก็บอื่น ๆ อย่างผ้าพันคอหรือเข็มขัดด้วย


4. ใช้ประโยชน์พื้นที่ใต้โต๊ะ

           แทนที่จะเอาพื้นที่ใต้โต๊ะไว้วางขาเพียงอย่างเดียว ลองหาตะกร้าใส่ของรก ๆ ไม่มีที่เก็บแล้ววางไว้ โดยแนะนำให้เป็นของที่ยังต้องใช้อยู่เรื่อย ๆ ส่วนของที่นาน ๆ ใช้ที ก็เก็บไว้ใต้เตียง หรือที่สูง ๆ หยิบยากไปเลยก็ได้


5. ล้างตู้เย็นให้ถูกเวลา

           วันไหนอากาศร้อนจัด ๆ ก็เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสด้วยการล้างตู้เย็นซะเลย เพราะอุณหภูมิสูงร้อนอบอ้าว จะช่วยละลายน้ำแข็งได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาล้างตู้เย็นไปได้เยอะทีเดียว


6. กำจัดเสื้อผ้าแค่ไม้แขวนเสื้อ 40 อัน

           หากอยากจัดการกับเสื้อผ้าที่อัดแน่นเต็มตู้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ใช้วิธีที่เด็ดขาดและรวดเร็ว ด้วยการจำกัดจำนวนเสื้อผ้าให้อยู่ที่ไม้แขวนเสื้อแค่ 40 อันเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ให้บริจาคหรือทิ้งไปซะ และจำไว้ว่าทุกครั้งที่ซื้อเสื้อใหม่ 1 ตัว ต้องบริจาค 2 ตัว ออกจากตู้เสื้อผ้าด้วย


7. ใช้กล่องแบ่งช่องเก็บของชิ้นเล็ก

           เก็บของชิ้นเล็กอย่าง ถ่านไฟฉาย เข็มกลัด หรือกิ๊บติดผม ให้เป็นระเบียบและหยิบง่าย ด้วยการหาซื้อกล่องแบบแบ่งช่องมาใช้ โดยอาจแบ่งของออกเป็นหมวดหมู่แต่ละกล่อง หรือใส่รวมกันในกล่องใบเดียวก็ได้ วิธีนี้ดีกว่าการรวมของชิ้นเล็กไว้ในกระป๋องใบเดียวแน่นอน

 
8. เก็บผ้าปูที่นอนอย่างมืออาชีพ

           พับผ้าปูที่นอนเป็นสี่เหลี่ยมแล้วสอดเก็บไว้ในปลอกหมอนที่ซื้อมาเป็นเซต เดียวกัน เป็นวิธีเก็บผ้าปูที่นอนแบบฉลาด ๆ ที่ช่วยให้บ้านดูเรียบร้อยมากขึ้น


9.  เก็บจดหมายและบิลต่าง ๆ ไว้ในตำแหน่งประจำ

           หากล่องพลาสติกมาติดไว้กับข้างโต๊ะที่ใช้เป็นประจำ แล้วใส่บิลหรือจดหมายทุกครั้งที่หยิบออกมาจากตู้ให้เป็นนิสัย จะช่วยให้ไม่ลืมจ่ายบิลต่าง ๆ และอย่าลืมขอรับใบแจ้งค่าใช้จ่ายต่างผ่านทางอีเมล หากมีให้บริการ จะช่วยลดปริมาณขยะในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพทีเดียว


10. เปิดอ่านจดหมายที่ถังขยะเสมอ

           ทุกครั้งที่จะเปิดอ่านจดหมายที่ได้รับมา ให้ยืนอยู่บริเวณถังขยะให้เป็นนิสัย เพราะหากอันไหนทิ้งได้ก็ให้ทิ้งลงถังขยะทันที มิฉะนั้นมันจะถูกวางอยู่ตรงไหนสักในของบ้าน จนรกไปหมดแน่นอน


11. สร้างฐานทัพสำหรับชาร์จไฟไว้ในลิ้นชัก

           สละลิ้นชักก้นลึก 1 อัน ให้เป็นที่สำหรับชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยซ่อนทั้งอุปกรณ์ที่กำลังชาร์จและสายไฟรก ๆ ให้พ้นจากสายตา โดยลิ้นชักเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีช่องไว้สอดสายไฟลอดผ่านอยู่แล้ว เหมาะสมที่จะเป็นฐานทัพที่ชาร์จจริง ๆ


12. เก็บบัตรสมาชิกและส่วนลดด้วยพวงกุญแจ

           บัตรส่วนลดหรือสะสมแต้มที่มีมากมาย หากเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ทั้งหมดคงบวมแน่ ๆ ถ้าอย่างนั้นให้เจาะรูการ์ดทุกใบด้วยตาไก่ แล้วร้อยไว้กับห่วงพวงกุญแจ พกใส่กระเป๋าทั้งพวง เวลาจะใช้รับรองว่าหาง่ายหยิบสะดวกแน่นอน ส่วนร้านไหนที่ให้สมาชิกบอกเบอร์โทรศัพท์ได้ ก็แยกการ์ดไปเก็บรวมกันไว้อีกพวงทิ้งไว้ที่บ้าน จะได้ไม่ต้องพกให้หนักกระเป๋า


13. กำจัดหนังสือเก่า

           อย่าเพิ่งโอดครวญไม่อยากสละหนังสือเล่มไหนเลย เพราะหากไม่กำจัดออกไปบ้างหนังสือคงสุมจนรกบ้านแน่ ๆ ดังนั้นให้แยกหนังสือออกเป็นประเภท แล้วบริจาคหรือขายออกไป ส่วนพวกสูตรอาหารต่าง ๆ ก็อาจฉีกเก็บไว้รวมกันในแฟ้ม แล้วครั้งหน้าที่ซื้อหนังสืออย่าลืมคิดให้นาน ๆ โดยหากเป็นนิตยสารแนะนำให้เช่าจากร้านเช่าหนังสือใกล้บ้าน ส่วนพ็อกเกตบุ๊กก็ซื้อแบบ E-book จะดีกว่า จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่เก็บ


14. เลือกใช้ที่แขวนผ้าขนหนูแบบตะขอ

           เพราะที่แขวนผ้าขนหนูแบบราวแขวนใช้ยาก หากพาดไว้ไม่ดีผ้าขนหนูอาจหล่นมากองที่พื้นได้ ดังนั้นให้เลือกใช้ที่แขวนแบบขอจะดีกว่า เพราะแขวนได้ง่ายกว่าและยังประหยัดพื้นที่มากกว่า โดยอย่าลืมติดตั้งในตำแหน่งต่ำสำหรับเจ้าตัวน้อยด้วย จะได้เป็นการฝึกนิสัยให้ช่วยเหลือตัวเองได้


15. ใช้แอพพลิเคชั่นสแกนเอกสารให้เป็นประโยชน์

           ประหยัดพื้นที่วางเครื่องสแกน ด้วยการโหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับสแกนเอกสารด้วยมือถือมาใช้ โดยวิธีการสแกนก็แสนง่ายแค่ถ่ายรูปแล้วจัดกรอบเอกสารนิดหน่อย ก็ได้เอกสารคุณภาพไม่ด้อยไปกว่าเครื่องสแกนเลย ประหยัดทั้งเงินและพื้นที่ในการตั้งเครื่องสแกนไปในตัว


16. มีจานเท่ากับจำนวนสมาชิกในบ้านคูณสาม

           หากมีจานจำนวนมากเกินไป นอกจากจะเจอปัญหาที่เก็บไม่พอแล้ว คนในบ้านอาจละเลยการล้างจาน เพราะยังมีใบอื่นให้ใช้อยู่ ดังนั้นให้มีจานเท่ากับจำนวนสมาชิกในบ้านคูณสาม รับรองว่านี่คือสูตรคำนวณที่เพียงพอในกรณีที่มีแขกมาเยือนแล้วด้วย



17. วางเสื้อผ้าพับแบบตั้งแทนแบบนอน

           เสื้อผ้าที่เก็บด้วยวิธีพับ เช่น เสื้อผ้าใส่อยู่บ้าน ชุดนอน หรือเสื้อผ้าที่อาจเสียทรงจากการแขวน ให้พับแล้วเรียงแบบตั้งในตู้หรือตะกร้า วิธีนี้จะช่วยให้เสื้อที่พับไม่ถูกรื้อจนยุ่งเหยิงเวลาจะใช้ แถมยังประหยัดเนื้อที่จัดเก็บได้อีกทางด้วย


18. มีของประเภทเดียวกันให้น้อยที่สุด

           นี่คือความลับของคนบ้านเนี้ยบ เพราะการมีของประเภทเดียวกันให้น้อยที่สุด หรือไม่ก็เพียงชิ้นเดียวไปเลย ไม่ว่าจะเป็นกรรไกร ปากกา ครีมทาตัว หรือแม้กระทั่งกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน จะเป็นวิธีที่ช่วยให้บ้านไม่รก แถมยังใช้ของชิ้นนั้น ๆ ได้อย่างคุ้มค่าอีกด้วย ดังนั้นพยายามกำจัดของอย่างเดียวกันที่ซ้ำออกไปเสีย แล้ววางของที่มีชิ้นเดียวอย่างเป็นที่เป็นทางแทน รับรองว่าบ้านจะเรียบร้อย แถมประหยัดเงินจากการซื้อของที่มีอยู่แล้วด้วย


19. เขียนวันหมดอายุให้ชัดเจน

           หาปากกาเคมีมาเขียนวันหมดอายุ ไว้บนภาชนะบรรจุอาหารและเครื่องสำอางตัวโต ๆ เพราะที่บริษัทผลิตระบุมามักตัวเล็กและอยู่ในตำแหน่งที่เห็นยาก การเขียนกำกับวันหมดอายุไว้ จะช่วยให้เราใช้วัตถุดิบได้ทันเวลาและทิ้งได้ทันที่หมดอายุ ทำให้บ้านไม่รกแถมยังดีต่อสุขภาพด้วย


20. แบ่งปันไลฟ์สไตล์ให้เป็นของขวัญ

           ของในบ้านมากมายทั้งที่ซื้อมาหรือได้ฟรี อาจใช้ไม่หมดถ้าเราไม่รู้จักแบ่งปันคนอื่น แสดงน้ำใจพร้อม ๆ กับเป็นการจัดระเบียบบ้านไปในตัว ด้วยการมอบของเหล่านั้นให้กับผู้อื่นเป็นของขวัญ เช่น มอบไวน์ให้กับเพื่อนนักดื่ม มอบคูปองเติมน้ำมันให้น้องสาว วิธีนี้เป็นการมอบมิตรไมตรีที่ผู้อื่นอาจเรียนรู้และทำตามเช่นกัน


           ลองนำไปทำตามกันดูนะคะ แล้วชีวิตจะเป็นระเบียบขึ้นจริง ๆ เพราะถ้าไม่ต้องเสียเวลาค้นหาข้าวของที่มีมากมายจนรกไปหมด แล้วพยายามทิ้งของไม่ใช้อยู่เสมอ และอย่าซื้อของมาเพิ่มโดยไม่จำเป็นด้วย เพียงเท่านี้บ้านก็จะเป็นระเบียบน่าอยู่สุด ๆ แล้วค่ะ



Thursday, January 29, 2015

ค่าใช้จ่ายบางอย่าง ไม่จำเป็นต้องจ่ายก็ได้




         หลายคนอาจไม่เคยรู้เลยว่า เรามีค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายอยู่มากมายที่ทำให้ต้องเสียเงินเพิ่ม ขึ้น ดังนั้นมาดูแล้วปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันเถอะ

          การใช้ชีวิตด้วยความเร่งรีบในปัจจุบัน หลายครั้งทำให้เรามองข้ามบางสิ่งบางอย่างไป โดยเฉพาะเรื่องการจับจ่ายใช้เงินในเรื่องทั่วๆ ไปที่เรามักจะควักเงินจ่ายซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ ไปอย่างง่ายดาย ด้วยความเร่งรีบ ความสะดวกสบาย หรือความชอบส่วนตัวก็ตาม จนบางครั้งอาจลืมไปว่า ค่าใช้จ่ายบางอย่างเป็นค่าใช้จ่ายที่เราไม่จำเป็นต้องจ่าย หรือเสียเงินส่วนนั้นไปเลยก็ได้ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้างนั้น เรามีข้อมูลจาก ธนาคารกสิกรไทย มาฝาก ลองไปดูกันค่ะ  

1. ค่าเดินทางที่สูงขึ้นเมื่อต้องการความรวดเร็ว

          เมื่อเราอยู่ในชั่วโมงเร่งรีบหรือต้องการความสะดวกรวดเร็วในการเดินทาง พาหนะที่เรามักจะนึกถึงและเลือกใช้เป็นอันดับแรก ๆ ได้แก่ รถมอเตอร์ไซค์ หรือ รถแท็กซี่ ซึ่งจะช่วยให้เราไปถึงที่หมายได้ในเวลาที่ต้องการ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าปกติ เรียกว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ทำให้เราต้องเสียเงินไปโดยไม่จำเป็น เช่น นอนตื่นสาย เมื่อต้องการไปทำงานให้ทันก็ต้องใช้บริการรถแท็กซี่ หรือใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างในการเดินทางแทนการนั่งรถโดยสารประจำทาง ทั่วไป ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าปกติประมาณ  5-10 เท่า (ขึ้นอยู่กับระยะทาง) ดังนั้นหากเราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอน โดยการเข้านอนให้ไว และตื่นแต่เช้า ก็จะช่วยป้องกันการนอนตื่นสาย และไม่ต้องใช้บริการรถโดยสารหรือพาหนะที่มีราคาสูงเหล่านั้นค่ะ     


2. ซื้อของบ่อยในร้านที่ไม่มีบัตรสมาชิก

          การใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือบริการใดก็ตามในร้านที่เราไม่มีบัตรสมาชิก จะทำให้เราเสียเงินไปมากกว่าที่ต้องจ่าย แม้หลายคนอาจมองว่าเป็นค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย ประมาณ 5-10% ของราคาสินค้าหรือบริการเท่านั้น แต่หากเราไปใช้บริการร้านนั้นบ่อย ๆ จำนวนเงินที่เสียไปในปี ๆ หนึ่งก็คิดเป็นจำนวนไม่น้อยเลยค่ะ เช่น ไปทานอาหารหรือไปซื้อสินค้าบ่อยๆ ในร้านที่เราไม่มีบัตรสมาชิก ทำให้เราไม่ได้รับส่วนลดจากร้านนั้น ๆ และต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนทุกครั้ง จึงถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เราไม่จำเป็นต้องจ่าย ดังนั้น วิธีแก้ง่าย ๆ มี 2 วิธีด้วยกันคือ ทำบัตรสมาชิกร้านที่ชอบไปใช้บริการบ่อย ๆ หรือเลือกไปใช้บริการในร้านที่เรามีบัตรสมาชิกอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยเราประหยัดเงินค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้ค่ะ


3. ซื้อของไม่ถูกแหล่ง

          เมื่อเจอของที่ถูกใจ หลายคนก็มักจะตัดสินใจซื้อโดยทันที แม้ว่าราคาจะสูงก็ตาม โดยลืมคิดไปว่าการที่ราคาสูงนั้น เป็นเพราะของชิ้นนั้นมีมูลค่าสูง หรือเป็นเพราะเราซื้อของไม่ถูกแหล่งกันแน่ เช่น เลือกซื้อเสื้อผ้าตามร้านค้าทั่วไป ไม่ได้ไปซื้อจากแหล่งที่ขายเสื้อผ้าโดยตรง แม้ว่าหลายคนจะรู้ว่าแหล่งซื้อสินค้าที่ต้องการนั้นอยู่ที่ไหน แต่ด้วยการเดินทางไปไม่สะดวก หรือไม่มีเวลาเดินทางไปก็ตาม หลายคนจึงตัดสินใจซื้อสินค้านั้น ๆ ไป ทำให้ได้ของที่มีราคาค่อนข้างสูง ยิ่งเมื่อซื้อจำนวนมากก็ยิ่งต้องจ่ายเงินมากโดยใช่เหตุ ดังนั้นหากเราสามารถรวบรวมรายการสินค้าที่ต้องการซื้อ และหาเวลาไปเลือกซื้อสินค้าเหล่านั้นจากแหล่งได้ก็จะทำให้เราได้สินค้าที่ ถูกใจ มีคุณภาพ ในราคาเหมาะสมค่ะ

4. ซื้อของตุนไว้มากเกินไป ทั้งที่ไม่ได้ลดราคา

          หลายคนชอบซื้อของตุนไว้จำนวนมากจนเกินความต้องการ ด้วยเหตุผลที่ว่ามาครั้งเดียวจะได้ไม่เสียเที่ยว และช่วยประหยัดค่ารถ ค่าน้ำมันได้ ทั้ง ๆ ที่ของที่ซื้อไปนั้นก็ไม่ได้ลดราคาหรือมีโปรโมชั่นในช่วงนั้น เกิดเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายขึ้น เช่น ซื้อเครื่องสำอางตุนไว้จำนวนมาก ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ลดราคา ทำให้ต้องจ่ายเงินจำนวนมากในราคาเต็ม และยังทำให้เงินจม เสียโอกาสในการนำเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นอีกด้วย ดังนั้นแนะนำให้ซื้อสินค้าในปริมาณที่เพียงพอกับความต้องการใช้ สำหรับช่วงไหนที่สินค้าลดราคาหรือมีโปรโมชั่น จึงค่อยซื้อในปริมาณที่เพิ่มขึ้น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยป้องกันเงินจมและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของเราไปได้ค่ะ

Tips

         
  วางแผนการใช้จ่าย โดยศึกษาข้อมูล โปรโมชั่น หรือแหล่งซื้อสินค้าก่อนตัดสินใจใช้เงิน

         
  ปรับเปลี่ยนทัศนคติหรือพฤติกรรมบางอย่างเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายลง

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Thursday, January 22, 2015

วิธีลดน้ำหนักสุดไฉไล เคล็ด (ไม่) ลับ ง่ายแต่เจ๋ง




         การลดน้ำหนักจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เมื่อพบกับเคล็ดลับการลดน้ำหนักสุดง่าย ที่ทำได้แค่เพียงมีวินัยกับตัวเอง

          การลดน้ำหนัก เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนทำมาตลอดทั้งชีวิตก็ยังไม่สำเร็จเสียที เพราะแต่ละวิธีที่ใช้บางครั้งก็ไม่เหมาะกับตัวเอง หรือไม่ก็ยากเกินไปจนทำให้รู้สึกท้อ บางคนก็ใช้วิธีที่อันตรายจนเกินไป ส่งผลเสียต่อสุขภาพ แทนที่จะลดน้ำหนักได้สมใจก็กลับต้องมาป่วย หรือไม่ก็น้ำหนักมากขึ้นกว่าเดิมอีก ปัญหาเหล่านั้นกำลังจะหมดไปค่ะ เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมนำวิธีการลดน้ำหนักแบบง่าย ๆ ที่ทำได้ทุกวัน จากเว็บไซต์ rediff มาฝากค่ะ ฮั่นแน่ ! สนใจกันแล้วใช่ไหมล่ะคะว่ามีอะไรบ้าง ถ้าอย่างนั้นไปดูกันเลย
 

 1. ตื่นนอนในตอนเช้าให้ดื่มน้ำก่อนเป็นอย่างแรก

          การดื่มน้ำจะทำให้สารพิษในร่างกายถูกขจัดออกไป และยังช่วยสร้างเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มปริมาณของเซลล์กล้ามเนื้อและเลือดในร่างกายอีกด้วย 

 2. ห้ามลืมรับประทานอาหารเช้าเด็ดขาด 

          มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ ช่วยลดความหิวในมื้อต่าง ๆ ได้ แถมยังช่วยทำให้คนเรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในมื้ออื่น ๆ อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่าคนที่รับประทานอาหารเช้าจะตื่นตัวและทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีกว่าคนที่ไม่รับประทานอาหารเช้า 

  
 3. รับประทานโปรตีนให้มากขึ้น 

           ในบรรดาสารอาหารที่สำคัญกับร่างกาย โปรตีนจะถูกย่อยได้ช้าที่สุด และจะคงอยู่ในกระเพาะอาหารของเรานานกว่าคาร์โบไฮเดรตและไขมัน ซึ่งเป็นผลดีกับการควบคุมน้ำหนัก ที่จะทำให้คุณอิ่มนานขึ้น ดังนั้นต้องลดการรับประทานจุบจิบค่ะ แล้วรับประทานโปรตีนให้มากขึ้น แต่ถ้ากลัวจะอิ่มเกินไปลองรับประทานเวย์โปรตีนแทนก็ได้นะคะ 

 4. รับประทานผลไม้ทุกวัน 

          น้ำและใยอาหารในผลไม้จะช่วยทำให้อิ่มได้ง่ายขึ้น และยังมีแคลอรี่ต่ำ เป็นตัวช่วยที่ดีในการลดน้ำหนัก แถมผลไม้จะช่วยลดความอยากอาหารที่ไม่มีประโยชน์อีกด้วย แต่ก็ควรรับประทานผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย เลี่ยงผลไม้ที่สุกจนเกินไปเพราะปริมาณน้ำตาลที่สูงอาจจะทำให้อ้วนได้ และที่สำคัญควรรับประทานผลไม้สดมากกว่าการดื่มน้ำผลไม้ค่ะ 

  
 5. รับประทานผักให้มาก ๆ 
  
         นอกจากผลไม้แล้ว ผักก็เป็นอาหารที่มีใยอาหารสูง แถมยังไม่มีน้ำตาลมากวนใจ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักและควบคุมการรับประทานอาหาร โดยควรมีผักในอาหารทุก ๆ มื้อ แต่ถ้านึกไม่ออกว่าจะรับประทานผักอย่างไรดี การรับประทานสลัดผักสด ๆ ก็เป็นวิธีที่จะช่วยให้ได้ทานผักที่ง่ายที่สุดค่ะ 

  
 6. รับประทานอาหารที่บ้าน

          การรับประทานอาหารที่บ้านเป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะอาหารที่เราทำเอง เราจะสามารถควบคุมแคลอรี่ได้ดีกว่าการรับประทานอาหารนอกบ้าน รวมทั้งยังมั่นใจได้ว่าอาหารที่รับประทานมีสารอาหารครบ และเพียงพอต่อร่างกาย การรับประทานอาหารนอกบ้านบ่อย ๆ จะทำให้คุณรับประทานเกินไป และผลที่ตามมาก็คือน้ำหนักที่ไม่ยอมลงสักที แถมในอาหารที่เขียนไว้ว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ก็ยังมีปริมาณแคลอรี่ที่ไม่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย 

 7. เปลี่ยนมารับประทานธัญพืชให้มากขึ้น

          ผลิตภัณฑ์ธัญพืชต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าว หรือถั่วชนิดต่าง ๆ ที่ผ่านขัดสีแล้ว สารอาหารส่วนใหญ่จะถูกขจัดออกไปในกระบวนการผลิต จนทำให้เหลือแต่แป้ง ไม่มีสารอาหารหรือแม้แต่ใยอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย และถึงแม้จะมีแต่ก็น้อยมาก ส่งผลให้เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วก็จะทำให้อ้วนได้ง่าย แต่บรรดาข้าวและธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีจนขาว จะได้รับสารอาหารที่มากกว่าและใยอาหารที่อยู่ในข้าวและธัญพืชเหล่านี้ยังช่วยในการขับถ่ายอีก 

 8. รับประทานสลัดและซุปให้มากขึ้น

          สลัดและซุปถือเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ต้องการน้ำหนัก เพราะทั้งในสลัดและซุปต่างก็มีผักเป็นส่วนประกอบทั้งนั้น แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงน้ำสลัดที่มีส่วนประกอบครีมมาก ๆ หรือแม้แต่ซุปชนิดข้นนะคะ ถ้าหากคุณออกไปทานอาหารข้างนอก แล้วสั่งสลัดก็ควรจะให้แยกน้ำสลัดมามากกว่า และควรจะสั่งซุปใสดีกว่านะคะจะได้ไม่อ้วนไงล่ะ 

  
 9. ไขมันลดได้แต่ห้ามขาด

          ถึงแม้ไขมันจะเป็นสาเหตุของความอ้วน แต่ร่างกายของเราก็ไม่สามารถขาดไขมันได้ เพราะร่างกายของเราต้องการไขมันในการช่วยดูดซับวิตามินบางชนิดอย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค อีกทั้งยังช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มอีกด้วย ดังนั้นหากอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ควรจะลดไขมันที่มาจากสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเนยหรือน้ำมัน และเปลี่ยนมารับประทานน้ำมันที่มาจากพืช เช่น น้ำมันมะกอก และถั่วหรือเมล็ดพืชต่าง ๆ อาหารเหล่านี้จะมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อนที่มีประโยชน์กับ ร่างกายค่ะ 

 10. ลดขนมขบเคี้ยว รับประทานถั่วให้มากขึ้น
  
           เวลานั่งว่าง ๆ หรือเวลาที่นั่งทำงานหลายคนอาจจะต้องมีขนมขบเคี้ยวไว้รับประทานเล่นกันใช่ ไหมล่ะคะ รู้หรือเปล่าว่าถ้าเราหยุดรับประทานจุบจิบได้จะสามารถลดน้ำหนักได้เยอะเลยล่ะค่ะ แต่ถ้าใครที่อดใจไม่ได้ ก็ลองเปลี่ยนจากขนมขบเคี้ยวมารับประทานเป็นถั่วหรือเมล็ดพืชชนิดต่าง ๆ เพราะถั่วนอกจากจะไม่ทำให้อ้วนแล้วยังมีโปรตีนและสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย ช่วยในการสร้างเสริมกล้ามเนื้อ ช่วยให้อยู่ท้องได้ และถ้าคุณไม่ชอบขนมก็สามารถนำถั่วชนิดต่าง ๆ มาทำเป็นอาหารรับประทานแทนเนื้อสัตว์บางชนิดก็ได้ประโยชน์เช่นเดียวกันค่ะ 

  
 11. กินให้เป็นและเหมาะสม

          ในที่นี้การรับประทานให้เป็นก็คือการรู้จักสัดส่วนในการรับประทานอาหารที่ควร จัดสรรให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่ต้องทำต่อวัน หากวันไหนที่ต้องทำกิจกรรมหนัก ๆ ก็ควรจะรับประทานอาหารในสัดส่วนที่เพียงพอต่อการเผาผลาญของร่างกายในวันนั้น ๆ และหากวันไหนที่ไม่ต้องใช้พลังงานมากก็ควรจะลดอาหารจำพวกที่ให้พลังงานสูง เปลี่ยนเป็นอาหารที่มีกากใยสูงและช่วยให้อยู่ท้อง หากสามารถทำได้จะช่วยทำให้อาหารที่คุณรับประทานเข้าไปไม่ไปสะสมกลายไปเป็นไขมันค่ะ 

 12. เลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

          น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง และเครื่องดื่มชูกำลัง เป็นเครื่องดื่มที่ควรหลีกเลี่ยงให้ไกลเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีแคลอรี่สูง แถมยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดไขมันสะสมที่นำปัญหาสุขภาพมาเยือน ลองเปลี่ยนมาดื่มชาเขียว น้ำมะพร้าว หรือน้ำมะนาวที่มีน้ำตาลน้อยสิคะ อร่อยเหมือนกันแถมยังได้ประโยชน์อีกด้วย 

  
 13. หลีกให้ไกลการลดน้ำหนักแบบแฟชั่น

          การลดน้ำหนักด้วยวิธีที่คนนิยมกันเช่น การงดแป้ง หรือแม้การรับประทานแต่ผักสด ๆ เพียงอย่างเดียวนั้น ขอบอกเลยค่ะว่าถึงแม้จะได้ผล แต่ก็ส่งผลกระทบต่อตัวของคนที่ใช้วิธีเหล่านี้ในการไดเอตเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบทางอารมณ์ หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพที่จะตามมา ทางที่ดีควรรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ แต่เลือกที่มีแคลอรี่ต่ำและดีต่อร่างกายจะดีกว่าค่ะ 

 14. หลีกเลี่ยงสารให้ความหวานแทนน้ำตาล

          ถึงแม้ว่าชื่อจะบอกว่าเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล แต่การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสารเหล่านี้มากเกินไปก็ทำให้อ้วน ได้เช่นกัน เจ้าสารให้ความหวานแทนน้ำตาลนี้นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้วยังอาจทำให้เกิด ความเสี่ยงโรคเบาหวานและโรคอ้วนได้ ดังนั้นแทนที่จะรับประทานอาหารที่มีสารให้ความหวานแทนน้ำตาล เปลี่ยนมาทานหวานให้น้อยลงและรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลตามธรรมชาติ อย่างเช่นผลไม้และผักจะดีกว่าค่ะ 

 15. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

          การลดน้ำหนักจะไม่สามารถสำเร็จได้เลยถ้าหากคุณไม่ออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย เพราะการออกกำลังกายเป็นวิธีจะช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย และช่วยขับสารพิษต่าง ๆ ในร่างกายออกมาทางเหงื่อ ใครอยากจะผอมไว ๆ ก็ควรจะใช้วิธีการออกกำลังกายทุกวันควบคู่กับการควบคุมอาหารนะคะ รับรองผอมไวแน่นอน 

  
 16. ลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ 

          เคยได้ยินกันใช่ไหมคะว่า การดื่มเหล้า ดื่มเบียร์ ทำให้ลงพุง นั่นก็เป็นเพราะว่าในแอลกอฮอล์นั้นมีแคลอรี่และน้ำตาลสูง ถ้าคุณเป็นนักดื่มและอยากจะลดน้ำหนักละก็ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ลง รับรองได้เลยว่าคุณจะสามารถผอมลงได้อย่างแน่นอนเลย 

 17. วางแผนการท่องเที่ยวให้มากกว่าการกิน

          หลายคนมักคิดว่าการไปเที่ยวคือการได้ไปลิ้มลองอาหารใหม่ ๆ และเพราะความคิดเหล่านั้นถึงทำให้เวลาที่กลับมาแล้วก็ต้องตีอกชกตัวเพราะ เผลอรับประทานอาหารมากเกินจนน้ำหนักขึ้น ฉะนั้นถ้าไม่อยากอ้วนก็ควรจะวางแผนการท่องเที่ยวใหม่ซะ เปลี่ยนจากการตระเวนหาของกินเป็นการใช้เวลาซึมซับบรรยากาศและหารประสบการณ์ ผ่านกิจกรรมกลางแจ้งจะดีกว่า แบบนั้นจะทำให้คุณได้มีความทรงจำดี ๆ มากกว่าที่จะต้องมานั่งเจ็บใจกับน้ำหนักที่ขึ้นเพราะกินมากเกินไปนะคะ 

 18. ระมัดระวังการรับประทานเกลือ

            รู้หรือไม่ว่าไม่เพียงแค่น้ำตาลเท่านั้นที่จะทำให้อ้วน แต่เกลือก็สามารถทำให้อ้วนได้เช่นกัน เพราะเกลือจะทำให้เรารู้สึกอยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะของหวานหรืออาหารที่มีน้ำตาลมาก ๆ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปที่มีเกลือเป็นส่วนประกอบ หรือแม้แต่บรรดาอาหารขยะทั้งหลายที่มีโซเดียมสูง และควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อชะล้างปริมาณโซเดียมที่มีมากเกินไปด้วยค่ะ 

  
 19. รับประทานอาหารก่อนออกจากบ้าน

          สำหรับใครที่จำเป็นจะต้องไปงานเลี้ยงหรืองานปาร์ตี้ต่าง ๆ ควรจะรับประทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปที่งาน เพราะการที่คุณปล่อยตัวเองให้หิวจะทำให้คุณรับประทานมากเกินไป โดยมีการศึกษาหนึ่งพบว่าคนที่ไปงานปาร์ตี้โดยที่ไม่รับประทานอะไรก่อนไป จะรับประทานอาหารมากกว่าคนที่รับประทานอาหารหรือของว่างก่อนที่จะไปถึง ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากให้หนักท้องจนเกินไป ก็ลองรับประทานของว่างเบา ๆ แทนอาหารก็ได้ค่ะ อย่างน้อยก็ให้คุณไม่รู้สึกหิวจนหน้ามืดเมื่อไปถึงงานนะคะ 

 20. นอนหลับให้เพียงพอ
          การนอนหลับเปรียบเสมือนกับสารอาหารของสมอง โดยคนเราจะต้องนอนหลับอย่างน้อย 7 - 9 ชั่วโมงถึงจะถือว่าเพียงพอ การพักผ่อนไม่เพียงพอจะส่งผลหยั่งลึกไปถึงสุขภาพมากกว่าที่คุณจะคาดคิดได้ การนอนหลับไม่เพียงพอจะส่งผลกระทบถึงอารมณ์ ความคิด น้ำหนัก และสุขภาพโดยรวม แถมการนอนหลับไม่เพียงพอยังจะทำให้คุณหิวแม้ว่าคุณจะรับประทานเข้าไปจนอิ่มแล้วก็ตาม รู้แบบนี้แล้วต้องนอนให้พอนะคะ จะได้ไม่อ้วนไงล่ะ 

  
          เคล็ดลับลดความอ้วนง่าย ๆ เหล่านี้ สามารถนำไปทำได้เลยโดยไม่ต้องกลัวจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย แค่เพียงมีวินัยให้มากขึ้น ทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นกิจวัตรแค่นี้ก็สามารถที่จะช่วยทำให้เรามีรูปร่างผอม เพรียวและน้ำหนักที่สมดั่งใจได้ จะรออะไรอยู่อีกล่ะ รีบทำเลยดีกว่า เดี๋ยวนี้เลย !