Sunday, October 18, 2015

น้องไม้ นวิน หนูน้อยหัวใจแกร่ง สู้มะเร็งสมอง เสียชีวิตแล้ว





น้องไม้ นวิน หนูน้อยทารก ที่เกิดมาพร้อมกับมะเร็งสมอง แต่ต่อสู้มา ได้เสียชีวิตแล้ว ด้านครอบครัวเผย หากยังมีบุญต่อกัน ขอให้น้องไม้ได้กลับมาเป็นลูกอีก

 
          เมื่อไม่นานมานี้ ชาวเน็ตได้ร่วมแชร์เรื่องราวของน้องไม้ นวิน ทารกน้อย ที่เกิดมาพร้อมกับมะเร็งสมอง  ขนาดใหญ่เกือบ 5 เซนติเมตร แต่น้องไม้ก็ไม่ท้อ แม้ต้องเข้ารับการผ่าตัด ทำเคมีบำบัด จนทำให้สูญเสียการมองเห็น ซึ่งน้องไม้ก็ยังคงกำลังใจดี จนทำให้เกิดกำลังใจหลั่งไหลมาสู่ครอบครัวของน้องไม้เป็นจำนวนมาก

 
          ล่าสุด เพจ น้องไม้ นวิน ได้เผยข่าวว่า ตอนนี้น้องไม้ได้จากไปอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 12.30 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม 2558  และทางครอบครัวจะมีการจัดงานสวดอภิธรรมและฌาปนกิจศพ
  ดังนี้

กำหนดการสวดอภิธรรมและฌาปนกิจศพ
น้องไม้ ด.ช.นวิน ไชยศร

        วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2558 เวลา 16.00 น. พิธีรดน้ำศพ และ เวลา 18.30 น. พิธีสวดพระอภิธรรม

        วันอังคารที่ 20 ตุลาคม เวลา 19.00 น. พิธีสวดพระอภิธรรม

        วันพุธ ที่ 21ตุลาคม 2558 เวลา 19.00 น. พิธีสวดพระอภิธรรม

        วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2558 เวลา 16.00 น. พิธีฌาปนกิจศพ

        ณ วัดธรรมมงคล.ศาลา 6 ซอยสุขุมวิท 101 (ขอเชิญร่วมส่งน้องไม้ไปสวรรค์ด้วยชุดสี ขาว ชมพู หรือสีดำตามสะดวก)

        ด้านครอบครัวเผยว่า น้องไม้ได้จากไปอย่างสงบ ไม่มีอาการเจ็บปวดใด ๆ น้องสดใสเหมือนเด็กนอนหลับ น้องเองสู้อย่างดีที่สุด และทีมแพทย์เองก็ทำอย่างดีที่สุด เคสของน้องไม้เป็นเคสเด็กทารกที่มีมะเร็งในสมองเกรด 4 ชนิดร้ายแรง แต่น้องสู้จนถึงขั้นปลูกถ่ายไขกระดูก และแพทย์เองต้องการเก็บรักษาชิ้นเนื้อของน้องไม้ไปศึกษา เพื่อหาแนวทางในการรักษามะเร็งในเด็กต่อไป ซึ่งทางครอบครัวก็อนุญาตและพร้อมร่วมมืออย่างเต็มที่


นอกจากนี้ ทรงครอบครัวยังได้เขียนเรื่องราวที่ดี ๆ เกี่ยวกับน้องไม้ ว่า

        "อยากให้วันนี้เป็นแค่ความฝัน ไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะมาไวแบบนี้

 
        ช่วงเวลาสุดท้ายของน้องไม้ พ่อกับแม่ได้กุมมือ ได้กอด ได้หอม ได้พาสวดมนต์จนนาทีสุดท้าย อธิษฐานว่าเวรกรรมใด ๆ ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติของน้องไม้ ขอให้ชดใช้จบสิ้นในชาตินี้ ต่อจากนี้ไปขอให้น้องไม้ไปเกิดในที่ดีดี ในสภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์และพร้อม อย่าได้เจ็บปวดทรมานอย่างชาตินี้เลย ขอให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีมีแต่คนรักรอบตัว หากเรายังมีบุญต่อกันขอให้กลับมาเกิดเป็นแม่ลูกกันอีก

 
        มาถึงวันนี้อยากบอกว่า ไม่เสียใจเลยที่ได้น้องไม้มาเป็นลูก แม้หากย้อนกลับไปได้และรู้ว่าน้องจะมาเข้ามาในชีวิตและเป็นแบบนี้ ถามว่าจะเอามั้ย ก็ตอบว่าเอา เต็มใจมากที่ได้เป็นผู้พาน้องประคับประคองให้ผ่านช่วงเวลาที่ผ่านมา ยอมรับว่าทุกข์มากแต่ก็สุขมากเช่นกัน

        หนูเหนื่อยใช่มั้ยลูก
        หนูอยากพักใช่หรือเปล่า
        หนูจะกลับมาหาแม่อีกใช่มั้ย
        พ่อแม่และพี่น้ำมนต์จะรอนะครับ
        รักน้องไม้เสมอ"

ภาพจาก เฟซบุ๊ก น้องไม้ นวิน
http://baby.kapook.com

Friday, October 16, 2015

น่าร๊ากกกก ฝุดๆ หนุ่มน้อยน่ารัก แค่ยิ้มเบาๆ ก็ละลายใจสาวได้แล้ว




                 น่าร๊ากกกก ฝุดๆ หนุ่มน้อยน่ารัก แค่ยิ้มเบาๆ ก็ละลายใจสาวได้แล้ว โอ๊ยสาวไหนได้มาเห็นเป็นต้องกรี๊ดแล้วคงอยากจะร้องออกมาว่าอยากมีลูกน่ารัก แบบนี้แน่นอน



โพสต์โดย justpick1 เมื่อ 16 ต.ค. 58 14:13:18
 http://world.kapook.com/pin/5620a38e4d265a8e338b456f



Saturday, October 10, 2015

12 เรื่องที่เด็กแรกเกิด เลี้ยงง่ายกว่าเด็กวัยเตาะแตะ




          คุณแม่มือใหม่หรือคุณแม่หลาย ๆ ท่าน อาจจะเคยคิดว่าเมื่อไหร่ลูกเราจะโต เมื่อไหร่ลูกเราจะเดินได้ แต่ถ้าอ่าน 12 เรื่องต่อไปนี้ที่กระปุกดอทคอมนำมาฝาก คุณแม่อาจจะเปลี่ยนใจยังไม่อยากให้ลูกน้อยเดินเตาะแตะก็ได้นะคะ ส่วนเด็กแรกเกิดจะ ดีกว่าเด็กวัยเตาะแตะอย่างไร เราหยิบยกตัวอย่างมาฝากคุณแม่กันค่ะ ว่าแต่จะมีเรื่องอะไรบ้างเราไปดูจากนิตยสาร Mother & Care กันเลยค่ะ

          แต่เมื่อลูกวัยทารกโตขึ้นเข้าสู่วัยเตาะแตะแล้วละก็ คุณแม่อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดว่าเลี้ยงลูกแรกเกิดนั้นเป็นเรื่องหมู ๆ ไปเลย หากจะเทียบกับการเลี้ยงลูกวัยเตาะแตะ


         
1. เด็กแรกเกิด กินเพียงนมแม่หรือนมผงจนถึงอายุ 6 เดือน (ช่างง่ายดายไม่ต้องตระเตรียมอะไรให้ยุ่งยาก) ขณะที่เด็กวัยเตาะแตะ กินอาหารแข็งที่คุณแม่ต้องพิถีพิถันทำให้ เด็กบางคนกินง่าย บางคนกินยาก บางคนกินขนมกินจุบกินจิบทั้งวันไม่หยุดปาก

         
2. เด็กแรกเกิดไม่ต้องสวมรองเท้าขณะที่เด็กวัยเตาะแตะต้องเปลี่ยนไซส์รองเท้าใหม่แทบจะทุกสามเดือน

         
3. เด็กแรกเกิดไม่เล่นของเล่น เด็กวัยเตาะแตะอยากเล่นของเล่นใหม่ ๆ อยู่ตลอด

         
4. เด็กแรกเกิด สามารถนอนหลับได้ในทุกที่ทั้งบนเตียง ในเปล ในคาร์ซีท ในเป้อุ้ม ขณะที่เด็กวัยเตาะแตะต้องนอนเตียงเท่านั้น กอดสิ่งของข้างกายอันนี้เท่านั้น ใช้ผ้าห่มอันนี้เท่านั้น เป็นต้น

         
5. ถ้าพาเด็กแรกเกิดนั่งรถแล้วขับไปที่ไหนสักแห่ง เขาก็จะหลับปุ๋ยอย่างง่ายดาย ขณะที่เด็กวัยเตาะแตะจะชวนพูดคุย ถามโน่นถามนี่ไม่หยุดปากตลอดทาง

         
6. เด็กแรกเกิดกับเด็กวัยเตาะแตะบางคนอยากให้แม่อุ้มตลอดเวลา แต่เด็กแรกเกิดหนักแค่ 3-4 กิโลกรัม เด็กวัยเตาะแตะหนัก 8-13 กิโลกรัม

         
7. เมื่อลูกวัยทารกดึงผมคุณ คุณอาจจะมองว่าน่ารักและร้องแค่ โอ๊ย ! เจ็บ แต่เมื่อลูกวัยเตาะแตะดึงผมคุณ ก็ได้เวลาสอนเรื่องระเบียบวินัย และอาจต้องทำโทษเสียบ้าง

         
8. เด็กแรกเกิดแทบไม่มีอะไรให้ต้องสกปรกเลอะเทอะ ขณะที่เด็กวัยเตาะแตะจะสะอาดแค่ช่วงวินาทีแรกที่ตื่นนอนหลังจากนั้นก็...

         
9. ในที่สาธารณะแทบทุกคนจะเข้าใจ คุณหากได้ยินเสียงเด็กแรกเกิดร้องเสียงดัง แต่ถ้าเด็กวัยเตาะแตะร้องเสียงดังลงไปดิ้นกับพื้นแล้วละก็ ไม่มีใครจะมองคุณด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจแน่ ๆ

         
10. เด็กแรกเกิดไม่สามารถพูดคำว่า "แม่" ได้มากถึง 40 ครั้ง ใน 12 วินาที แต่เด็กวัยเตาะแตะทำได้

         
11. เด็กแรกเกิดไม่สามารพูดคำหยาบที่จำมาจากคุณ ต่อหน้าคนที่คุณนับถือหรือพยายามสร้างความประทับใจ ขณะที่เด็กวัยเตาะแตะทำได้

         
12. ถ้าวางเด็กแรกเกิดไว้ตรงไหนหนูน้อยก็จะยังคงอยู่ตรงนั้น ขณะที่เด็กวัยเตาะแตะไม่ต่างกับตุ๊กตาไขลาน ที่จะไม่อยู่นิ่งเลย เขาจะขยับตัวไปมา เดินขึ้นเดินลงบันได มุดใต้โต๊ะ ขึ้นบนเตียง เคลื่อนไหวตลอดเวลา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mother & Care
Vol.11 No.128 สิงหาคม 2558
http://baby.kapook.com
เครดิตภาพ   http://astore.amazon.com/buy-best-special-price-baby-clothes-special-20/detail/B016EYVM20

Monday, October 5, 2015

น่ารักโฮก มะหมา "ขับรถ" ให้หนูน้อยนั่ง ไปซิ่งกับพี่ไม่มีชนนะน้อง





         เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2558 เว็บไซต์เดลี่เมล เผยคลิปชวนยิ้มความยาวประมาณแค่ 1 นาทีแต่น่ารักน่าเอ็นดูแบบสุด ๆ  เมื่อเดซี่ เจ้าตูบแสนรู้สาย พันธุ์เวสต์ไฮแลนด์ ไวต์เทร์เรียร์ ได้ขับรถของเล่นให้หนูน้อยเพื่อนรักนั่งแบบชิล ๆ อยู่ด้านข้าง ส่วนตัวมันก็จับพวงมาลัยบังคับทิศทาง ขับซิ่งวิ่งวนไปมาได้อย่างคล่องแคล่วเลยทีเดียวเชียว

          เจสสิก้า วอล์ฟ แม่ของพ่อหนุ่มน้อยโอลิเวอร์ เป็นผู้ถ่ายคลิปดังกล่าวนี้ไว้ได้ และโพสต์ลงเว็บไซต์ยูทูบ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (30 กันยายน) จากนั้นคลิปนี้ได้สร้างความประหลาดใจให้กับชาวโลกโซเชียลไม่น้อย ต่างเข้ามาชมและมีจำนวนมากได้ตั้งข้อสงสัยว่าเจ้าตูบตัวนี้ไม่ได้ขับเอง แต่ใช้รีโมทเป็นตัวบังคับ




          อย่างไรก็ดี เจสสิก้า ได้เผยว่า เจ้า ตูบเดซี่ตัวนี้ชอบขับรถให้ลูกชายเธอนั่งเป็นประจำ และรถของเล่นคันนี้ก็มีรีโมทบังคับแถมมาจริง แต่เธอใช้มันเพื่อเร่งและหยุดรถเท่านั้น  ส่วนการบังคับทิศทาง เจ้าตูบเดซี่เป็นคนจัดการเองทั้งหมด


http://pet.kapook.com/view130901.html