ถ้าจะบอกว่า คุณแม่ยุคใหม่ต้องเก่งครบเครื่องกว่าคุณแม่ยุคก่อนมาก ๆ
ก็คงไม่ผิดนัก เพราะนอกจากภาระเลี้ยงดูลูกน้อยแล้ว คุณแม่ทั้งหลายยังมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบไปพร้อม
ๆ กันอีกจิปาถะสารพัด ทั้งเรื่องงาน เรื่องการดูแลบ้าน รวมทั้งสังคม และเพื่อนฝูง
ประเด็นใหญ่ ๆ ในชีวิตทั้งหมดนี้ก็มากพอจะปล้นเอาชีวิตอันแสนสงบสุขจากเราไปได้แล้วล่ะค่ะ
ดังนั้นก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไร หากเราจะเห็นบรรดาคุณแม่ลูกอ่อนมีสภาพเพิ้ง และหัวหมุนไปตาม
ๆ กัน ด้วยเหตุนี้กระปุกดอทคอมเลยขออาสาแนะนำ 7 แนวทางเพื่อการเป็นคุณแม่ที่แสนเพอร์เฟคท์มาให้คุณแม่คนเก่งได้ศึกษาไว้
จะได้นำไปปฎิบัติตามเพื่อความสุขที่มากขึ้นนะคะ
1. ความสมบูรณ์แบบที่เราพอใจ
บางครั้งคุณแม่ก็ถูกตั้งความหวังไว้สูงว่าจะต้องเป็นแม่ที่ดี และในขณะเดียวกันก็ต้องเป็นภรรยาที่ดี เป็นลูกสาวที่แสนวิเศษ และเป็นเพื่อนที่เยี่ยมยอด แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครเพอร์เฟคท์ขนาดนั้นได้หรอก ดังนั้นแทนที่จะกดดันตัวเองให้มีประสิทธิภาพสูงเกินมนุษย์ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ก็มากำหนดความสมบูรณ์แบบในฉบับของตัวเองดีกว่า สถานการณ์ในชีวิตของคุณแม่เป็นแบบไหน ก็ปรับไลฟ์สไตล์ที่มีลูกเล็ก ๆ เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งชีวิตให้เป็นแบบนั้น อย่างคุณแม่บางคนก็กระเตงลูกรักไปออฟฟิศด้วยในวันอาทิตย์ เพียงเพื่อต้องการสะสางงานให้เสร็จเรียบร้อย พร้อม ๆ กับทำหน้าที่คุณแม่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เป็นต้น
2. ความสำเร็จในแบบฉบับของตัวเอง
คุณแม่ทุกท่านอาจจะต้องมานิยามคำว่า "ความสำเร็จ" ของตัวเองเสียใหม่ เพราะเมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตที่เรารักยิ่งมาเติมเต็มความสมบูรณ์ของคำว่าครอบครัวแล้ว คุณแม่อาจจะต้องแลกกับประสิทธิภาพด้านการงานที่ลดลง หรือเวลาสังสรรค์ที่หายไปบางส่วน เพื่อมาดูแลลูกรักให้มากขึ้น และแบบนี้ถ้าจะหวังให้ตัวเองปราดเปรียวไปซะทุกด้านเหมือนเมื่อก่อนก็คงยากแล้ว ฉะนั้นแค่เพียงคุณแม่ดูแลลูกรักได้อย่างเต็มที่ มีงานทำตามปกติ และมีเวลาสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้างในบางโอกาส เท่านี้ก็เรียกว่า ชีวิตประสบความสำเร็จไปในระดับหนึ่งแล้วล่ะ เห็นด้วยไหมคะ ?
3. ประมาณความสามารถของตัวเอง
เพื่อการเป็นคุณแม่ที่ไม่ต้องเหนื่อย และเพิ้งมาก คุณอาจจะต้องประมาณความสามารถของตัวเองด้วย โดยดูจากสถานการณ์รอบด้าน เช่น คุณแม่บางคนอาจจะมีคุณย่าคุณยายช่วยเลี้ยงลูก อย่างนี้คุณก็สามารถทุ่มเทกับงานได้ตามปกติ แต่สำหรับคุณแม่บางคนที่ต้องเลี้ยงลูกเองเป็นส่วนใหญ่ เรื่องงาน และเรื่องอื่น ๆ ก็คงต้องสำคัญรองลงมาตามลำดับ
4. ให้เวลากับตัวเองบ้าง
ก่อนที่จะมีลูก เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนคงมีช่วงเวลาเป็นส่วนตัวเหลือเฟือ มากพอจะทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามใจ ดังนั้นพอมีลูกแล้วคุณก็ควรแบ่งเวลาให้ตัวเองบ้าง โดยอาจจะเจียดเวลาอย่างน้อยสัก 10 นาทีในแต่ละวัน ไปออกกำลังกาย อ่านหนังสือเล่มโปรด หรือทำกิจกรรมผ่อนคลายต่าง ๆ นานา จะได้ถือโอกาสพักผ่อนไปในตัวนะคะ
5. ทำตามที่ใจต้องการเป็นอันดับแรก
ผู้หญิงที่กลายเป็นคุณแม่ทุกคนมีสิทธิ์ทำตามที่ใจเรียกร้องต้องการเสมอ และไม่ต้องกลัวว่าจะทำในสิ่งที่ผิดด้วย เพราะด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ และความรักที่ยิ่งใหญ่ที่คุณมีให้กับลูก จะชี้นำให้คุณตัดสินใจเพื่อตัวเอง ลูกน้อย และครอบครัวอย่างลงตัวกันทุกฝ่าย
6. ดำเนินทุกอย่างไปพร้อม ๆ กัน
อย่ากดดันตัวเองด้วยการแบ่งภาคชีวิตเป็นคุณแม่ เป็นสาวทำงาน และเป็นภรรยาที่ดี เพราะวิธีคิดแบบนี้จะยิ่งทำให้คุณลำดับชีวิตตัวเองไม่ถูก ทางที่ดีพยายามรวมทุกภาคทุกบทบาทชีวิตเข้าไว้ด้วยกัน แล้วดำเนินชีวิตในแต่ละวันแบบไร้กรอบจำกัดดีกว่า
ซูเปอร์มัมเป็นไม่ยากอย่างที่คิดหรอกค่ะ เพราะเพียงแค่คุณดูแลลูกรักอย่างเต็มที่ และสนุกกับชีวิตในส่วนของตัวเองอย่างที่สุด แค่นี้ก็เป็นคุณแม่ที่แสนเพอร์เฟคท์ของหนู ๆ ได้แล้วล่ะ
1. ความสมบูรณ์แบบที่เราพอใจ
บางครั้งคุณแม่ก็ถูกตั้งความหวังไว้สูงว่าจะต้องเป็นแม่ที่ดี และในขณะเดียวกันก็ต้องเป็นภรรยาที่ดี เป็นลูกสาวที่แสนวิเศษ และเป็นเพื่อนที่เยี่ยมยอด แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครเพอร์เฟคท์ขนาดนั้นได้หรอก ดังนั้นแทนที่จะกดดันตัวเองให้มีประสิทธิภาพสูงเกินมนุษย์ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ก็มากำหนดความสมบูรณ์แบบในฉบับของตัวเองดีกว่า สถานการณ์ในชีวิตของคุณแม่เป็นแบบไหน ก็ปรับไลฟ์สไตล์ที่มีลูกเล็ก ๆ เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งชีวิตให้เป็นแบบนั้น อย่างคุณแม่บางคนก็กระเตงลูกรักไปออฟฟิศด้วยในวันอาทิตย์ เพียงเพื่อต้องการสะสางงานให้เสร็จเรียบร้อย พร้อม ๆ กับทำหน้าที่คุณแม่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เป็นต้น
2. ความสำเร็จในแบบฉบับของตัวเอง
คุณแม่ทุกท่านอาจจะต้องมานิยามคำว่า "ความสำเร็จ" ของตัวเองเสียใหม่ เพราะเมื่อมีอีกหนึ่งชีวิตที่เรารักยิ่งมาเติมเต็มความสมบูรณ์ของคำว่าครอบครัวแล้ว คุณแม่อาจจะต้องแลกกับประสิทธิภาพด้านการงานที่ลดลง หรือเวลาสังสรรค์ที่หายไปบางส่วน เพื่อมาดูแลลูกรักให้มากขึ้น และแบบนี้ถ้าจะหวังให้ตัวเองปราดเปรียวไปซะทุกด้านเหมือนเมื่อก่อนก็คงยากแล้ว ฉะนั้นแค่เพียงคุณแม่ดูแลลูกรักได้อย่างเต็มที่ มีงานทำตามปกติ และมีเวลาสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้างในบางโอกาส เท่านี้ก็เรียกว่า ชีวิตประสบความสำเร็จไปในระดับหนึ่งแล้วล่ะ เห็นด้วยไหมคะ ?
3. ประมาณความสามารถของตัวเอง
เพื่อการเป็นคุณแม่ที่ไม่ต้องเหนื่อย และเพิ้งมาก คุณอาจจะต้องประมาณความสามารถของตัวเองด้วย โดยดูจากสถานการณ์รอบด้าน เช่น คุณแม่บางคนอาจจะมีคุณย่าคุณยายช่วยเลี้ยงลูก อย่างนี้คุณก็สามารถทุ่มเทกับงานได้ตามปกติ แต่สำหรับคุณแม่บางคนที่ต้องเลี้ยงลูกเองเป็นส่วนใหญ่ เรื่องงาน และเรื่องอื่น ๆ ก็คงต้องสำคัญรองลงมาตามลำดับ
4. ให้เวลากับตัวเองบ้าง
ก่อนที่จะมีลูก เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนคงมีช่วงเวลาเป็นส่วนตัวเหลือเฟือ มากพอจะทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามใจ ดังนั้นพอมีลูกแล้วคุณก็ควรแบ่งเวลาให้ตัวเองบ้าง โดยอาจจะเจียดเวลาอย่างน้อยสัก 10 นาทีในแต่ละวัน ไปออกกำลังกาย อ่านหนังสือเล่มโปรด หรือทำกิจกรรมผ่อนคลายต่าง ๆ นานา จะได้ถือโอกาสพักผ่อนไปในตัวนะคะ
5. ทำตามที่ใจต้องการเป็นอันดับแรก
ผู้หญิงที่กลายเป็นคุณแม่ทุกคนมีสิทธิ์ทำตามที่ใจเรียกร้องต้องการเสมอ และไม่ต้องกลัวว่าจะทำในสิ่งที่ผิดด้วย เพราะด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ และความรักที่ยิ่งใหญ่ที่คุณมีให้กับลูก จะชี้นำให้คุณตัดสินใจเพื่อตัวเอง ลูกน้อย และครอบครัวอย่างลงตัวกันทุกฝ่าย
6. ดำเนินทุกอย่างไปพร้อม ๆ กัน
อย่ากดดันตัวเองด้วยการแบ่งภาคชีวิตเป็นคุณแม่ เป็นสาวทำงาน และเป็นภรรยาที่ดี เพราะวิธีคิดแบบนี้จะยิ่งทำให้คุณลำดับชีวิตตัวเองไม่ถูก ทางที่ดีพยายามรวมทุกภาคทุกบทบาทชีวิตเข้าไว้ด้วยกัน แล้วดำเนินชีวิตในแต่ละวันแบบไร้กรอบจำกัดดีกว่า
ซูเปอร์มัมเป็นไม่ยากอย่างที่คิดหรอกค่ะ เพราะเพียงแค่คุณดูแลลูกรักอย่างเต็มที่ และสนุกกับชีวิตในส่วนของตัวเองอย่างที่สุด แค่นี้ก็เป็นคุณแม่ที่แสนเพอร์เฟคท์ของหนู ๆ ได้แล้วล่ะ
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment