เชื่อไหมคะ....อานุภาพของ
“ความรัก” ไม่เพียงช่วยให้คนทั่วโลกอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
แต่ยังเป็นพลังสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาสมองของเด็กด้วยค่ะ
Love is Good
ความรักและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่ลูก การสัมผัสที่นุ่มนวลและอ่อนโยน อารมณ์ที่มีความสุข ประสบการณ์ดีๆ ที่ลูกได้รับตั้งแต่ช่วงแรกเกิด เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกมากที่สุด เพราะนอกจากเป็นสิ่งเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างกันได้ดีแล้ว ความรักยังมีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของสมอง รวมทั้งมีผลต่อการสร้างเครือข่ายเส้นใยสมอง การส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเป็นอย่างมากด้วย ปัจจุบันพบว่าสมองของเด็กอายุ 3 ปี จะมีความตื่นตัวมากกว่าสมองของผู้ใหญ่ถึง 2 เท่า ดังนั้นการแสดงความรักความเอาใจใส่ให้กับลูกในช่วงเวลา 3 ปีแรกของชีวิต จึงช่วยให้สามารถสร้างสมองที่ดีที่จะอยู่กับลูกไปได้ตลอดชีวิตค่ะ
รักแท้จากพ่อแม่ ดูแลพัฒนาการเจ้าตัวเล็ก
ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่ เป็นพื้นฐานของการพัฒนาสมอง คือ พ่อแม่จะต้องให้ความรัก แสดงความรักกับลูกในการทำกิจวัตรประจำวัน หรือการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับลูก อ่านหนังสือให้ลูกฟัง เล่นกับลูก หรืออื่นๆ จากการวิจัยพบว่าเด็กที่พ่อแม่แสดงความรักบ่อย ได้รับการกอดบ่อย โตขึ้นจะเป็นเด็กที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง มองโลกในแง่ดี ทำให้มีความกล้าที่แสดงออกมากขึ้นด้วย นอกจากนี้การสัมผัสที่พ่อแม่ถ่ายทอดความรักความอบอุ่น สัมพันธภาพที่ดีระหว่างกัน จะทำให้เด็กสามารถปรับตัวให้เข้ากับความเครียดในชีวิต โดยพบว่าเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่มีความรักความอบอุ่น จะสามารถควบคุมสถานการณ์เมื่อเกิดความเครียดได้ดีอีกด้วย
How to start….Love
- เพิ่มประสบการณ์แห่งรัก
พ่อแม่ทำกิจวัตรต่างๆ กับลูกด้วยตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะสิ่งกระตุ้นที่สำคัญที่สุดสำหรับลูก คือ ประสบการณ์ที่ได้รับความรักจากแม่ที่มีต่อลูก จากการที่ลูกได้จ้องมองสบตาพ่อแม่ หรือได้ยินเสียงพูดคุย ร้องเพลง ได้สัมผัส โอบกอด เห่กล่อม การที่ลูกได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรัก ความเอาใจใส่จากพ่อแม่ จะทำให้ลูกพัฒนาบุคลิกลักษณะนิสัยของตัวเอง โดยเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อแม่ ส่งผลทำให้เด็กเป็นคนที่มีความรู้สึกใส่ใจความรู้สึกของผู้อื่น และรู้จักรักผู้อื่นเป็นอีกด้วยค่ะ
- อย่าบอกลูกว่า “ไม่รัก”
ลูกที่มีอายุ 2-3 ขวบขึ้นไป จะต้องระวังไม่ให้ลูกกังวลว่าแม่หรือพ่อจะไม่รักเขาเมื่อเขาทำผิด จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่พ่อแม่จะต้องแยกความรู้สึกนี้ให้ได้ จะต้องแสดงให้ลูกเห็นความแตกต่างระหว่างพฤติกรรมที่ลูกทำผิดกับความรักในตัว ลูกให้ลูกรับรู้ชัดเจน เช่น “แม่รักหนู แต่แม่ไม่ชอบที่หนูโยนของทิ้งจนแตกแบบนี้นะจ๊ะ”
- อ่านหนังสือให้ลูกฟัง
การอ่านหนังสือให้ลูกฟัง พร้อมสัมผัสโอบกอดลูกด้วยความรัก เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการทางอารมณ์ของลูกไปพร้อม กัน เพราะขณะที่พ่อแม่โอบกอดลูก และอ่านนิทานเรื่องโปรดให้ลูกฟัง นอกจากลูกจะได้ใช้สมองจินตนาการเรื่องราวที่ได้ฟังแล้ว ยังเกิดความรู้สึกอบอุ่นผูกพันกับพ่อแม่ด้วย ดังนั้นไม่ว่าพ่อแม่จะมีการศึกษาระดับใด หรือมีความสามารถอ่านมากน้อยอย่างไร แต่การได้อุ้มลูก พยายามอ่านให้ลูกฟังแม้จะอ่านผิดอ่านถูกไปบ้าง ก็ยังถือเป็นการกระตุ้นสมองและส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ของลูกได้ทั้งสิ้น ที่สำคัญลูกก็ได้รู้ว่าพ่อแม่เห็นความสำคัญของลูก ลูกได้รับความรักความอบอุ่นจากการกอด การสัมผัส และเกิดความผูกพันมั่นคงทางจิตใจ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิตได้เช่นกันค่ะ
แหล่งที่มา
Mother&Care
(www.motherandcare.in.th)
เครดิตภาพ
https://colephoto.wordpress.com/tag/portrait/
No comments:
Post a Comment