บ่อยครั้งที่การใช้ชีวิตประจำวันต้องพบเจอคนหลายแบบหลาย
ประเภททั้งดีและไม่ดีบ้างก็มีระเบียบวินัย ปฏิบัติตามกฎสังคมที่ตั้งไว้
แต่ก็มีบ้างแหละค่ะ คนประเภทที่ชอบแหกกฎ เน้นความสะดวกและไม่ค่อยนึกถึงคนอื่น ยิ่งในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ
ด้วยแล้ว เราพบคนแบบนี้อยู่ทุกวัน ในเมื่อต้นแบบเป็นซะอย่างนี้แล้วเด็กๆ
ของเราล่ะจะเป็นอย่างไร
ไม่แปลกใจเลยค่ะ เวลาออกนอกบ้านแล้วพาเจ้าตัวเล็กไปด้วย ต้องตอบคำถามลูกเรื่องนี้อยู่เรื่อยเชียว “ทำไมคนนั้นเขาไม่ต่อแถวละคะ” หรือ “ทำไมรถคันนั้นฝ่าไฟแดง” และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากจะต้องอธิบายกันแล้ว เพื่อให้ลูกของเราเติบโตไปอย่างไม่เบียดเบียนคนอื่นการปลูกฝังและฝึกฝน เรื่องวินัยให้เจ้าตัวเล็กในวันนี้คือสิ่งสำคัญที่สุด วินัย...พื้นฐานสำคัญของเจ้าตัวเล็ก
เด็กดีและเก่งอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีพอ สำหรับสังคมเราอีกต่อไป เพราะคุณภาพของอนาคตของชาตินั้น อยู่ที่การอยู่ในสังคมได้โดยไม่เบียดเบียนหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ อื่น การปูพื้นฐานการมีวินัยตั้งแต่ยังเด็ก ช่วยให้สังคมเราดีขึ้นได้ค่ะ วินัย คำๆ นี้สอนให้เด็กๆ รู้จักการแสดงออกอย่างเหมาะสม ไม่มากไปไม่น้อยไป สอนให้รู้จักสิทธิของตัวเองและผู้อื่น สอนให้รู้จักหน้าที่และมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้รับมอบหมายและสอนให้ รู้จักควบคุมตัวเอง รวมๆ แล้ววินัยก็คือ การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันนั่นเอง
การสร้างวินัยให้กับลูก จึงเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และส่งผลต่อรูปแบบการใช้ชีวิต ลักษณะนิสัย และการดำเนินชีวิตของเจ้าตัวเล็กเอง ซึ่งนั่นหมายรวมถึงความสามารถในการจัดการสิ่งต่างๆ ด้วยเช่นกัน ยิ่งในช่วง 1-3 ปีด้วยแล้ว นับเป็นปีทองของการเรียนรู้และเลียนแบบสิ่งต่างๆ รอบตัว ช่วงวัยนี้จึงเหมาะแก่การปลูกฝังและสอนให้ลูกรู้จักกับคำว่า วินัย
6 กิจกรรมฝึกวินัยจากสิ่งใกล้ตัว
สำหรับเด็กเล็กแล้ว
อาจไม่ต้องมองไกลไปถึงเรื่องกฎระเบียบและข้อตกลงในสังคม เพราะดูจะไกลตัวเกินไป
จะฝึกฝนเรื่องนี้ ควรเริ่มจากเรื่องใกล้ตัว เช่น กิจวัตรประจำวัน
กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน นอกจากฝึกฝนได้ไม่ยากเย็นแล้ว ลูกได้ทำสิ่งนั้นซ้ำๆ ทุกวัน
เกิดการจดจำที่ง่ายขึ้น จึงได้ผลดีกว่า
1. มื้ออาหาร เรื่องใหญ่ในชีวิตเรื่องหนึ่งที่ฝึกกันได้ เพียงกำหนดมื้ออาหารให้เป็นเวลาเพื่อให้ลูกคุ้นกับการตรงต่อเวลา กินอิ่มแล้วให้ลูกเก็บภาชนะของตัวเอง ช่วยเก็บโต๊ะอาหารสอนให้ล้างมือทั้งก่อนและหลักหม่ำข้าว รู้จักแปรงฟันหลังกินอาหาร ปลูกฝังเรื่องการรักษาความสะอาด
2. ถึงเวลานิทรา เช่น เดียวกับเรื่องอาหารการกิน ควรฝึกลูกให้นอนและตื่นเป็นเวลาให้ลูกรู้ว่าเวลาไหนควรเล่น เวลาไหนควรเข้านอนได้แล้ว สิ่งหนึ่งที่ช่วยได้คือ การใช้ห้องนอนสำหรับการนอน ไม่ควรทำกิจกรรมอื่นในห้องนี้ ตื่นนอนแล้วสอนให้ลูกรู้จักเก็บที่นอนของตัวเองทุกครั้ง
3. ทิ้งให้ถูกที่ บ่อยครั้งที่เด็กๆ
มักเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่เรา
พอทำของตกพื้นเรามักจะนำไปทิ้งในถังขยะ เจ้าตัวเล็กที่สังเกตอยู่
เมื่อเห็นบ่อยเข้า ก็นำของที่ต้องลงถังไปทิ้งได้ถูกที่
แต่อาจจะต้องอาศัยการพูดคุยด้วยนะคะ เพื่อแนะนำพฤติกรรมให้ลูกทำได้อย่างถูกต้อง
4. เรื่องเล่นๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าของเล่นสำหรับเด็กๆ
นั้น แต่ละบ้านคงมีอยู่ไม่น้อย เพราะสมัยนี้ของเล่นไม่ได้เล่นเพลินๆ
แต่ยังเสริมพัฒนาการได้ด้วย ลองหากล่องสีสวยๆ
หรือมีลวดลายที่ลูกชอบมาเก็บของเล่นเหล่านี้ เมื่อลูกหยิบของเล่นออกมาแล้ว
เล่นเสร็จเมื่อใดชักชวนลูกช่วยกันเก็บของเล่นเข้าที่ด้วย กล่องสวยๆ
ดึงดูดให้ลูกอยากทำด้วยตัวเองได้ดี
5. นิทาน ตัวช่วยที่ไม่ทำให้ใครผิดหวัง
ไม่ว่าจะปลูกฝังเรื่องอะไร นิทานเป็นสื่อการสอนที่ได้ผลเสมอ
เลือกนิทานที่มีเนื้อหาดีๆ
สอดแทรกเรื่องของระเบียบวินัยมาอ่านให้ลูกฟังรูปภาพน่ารักๆ
สีสันสดใสดึงความสนใจให้ลูกได้ไม่ยาก ควรพูดคุยกับลูกเป็นระยะ ลองตั้งคำถาม
แล้วให้ลูกตอบ แล้วอธิบายสิ่งที่ถูกต้องให้ลูกฟัง
6. เข้าครัว งานครัวสร้างความตื่นตาให้เด็กๆ
ได้แบบไม่ต้องสงสัย เมื่อไหร่ที่คุณแม่อนุญาตให้ก้าวเข้ามาในห้องนี้
เหมือนกับเด็กๆ ก้าวเข้ามาให้โลกแห่งเวทมนตร์ ไม่น่าแปลกที่เด็กๆ
จะช่วยทำโน่นทำนี่ ไม่ว่าจะเตรียมอาหาร
หรือเก็บกวาดและทำความสะอาดอย่างสนุกสนานและเต็มใจเป็นที่สุดฝึกวินัยให้ได้ ผล
แนะนำกิจกรรมไปแล้ว คราวนี้มาเสริมเทคนิคเข้าไปอีกนิดเพื่อผลลัพท์ที่ดีกว่าค่ะ
ต้องสำรวจความพร้อมของลูก แล้วจะสำรวจอย่างไร
ก็ดูจากพัฒนาการของลูกเรานี่ล่ะ
เลือกการฝึกที่เหมาะกับพัฒนาการและสอดคล้องกับธรรมชาติของลูก และค่อยๆ
สร้างเงื่อนไขเพิ่มขึ้นตามวัย
ให้รางวัล ทุกครั้งที่ลูกทำได้ตามที่บอก
อย่าลืมให้รางวัลลูกด้วย เป็นการเสริมแรงให้ลูกทำพฤติกรรมนั้นๆ ต่อไป
แต่รางวัลที่ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของหรอกค่ะ เพราะที่ลูกต้องการยิ่งกว่า คือ
คำกล่าวชม การโอบกอด รวมถึงการสบตาสื่อสารว่าคุณรักลูกมากเพียงใด
ทำอย่างสม่ำเสมอ ตัวแปรสำคัญอีกตัวหนึ่ง
ที่อาจเป็นตัววัดว่าการฝึกวินัยของคุณแม่ครั้งนี้จะได้ผลหรือไม่
หากคุณปฏิบัติกับลูกอย่างสม่ำเสมอ
มีความต่อเนื่องและไม่ขาดตอนลูกก็จะซึมซับสิ่งที่คุณคอยพร่ำสอน
แต่หากทำบ้างไม่ทำบ้าง แล้วแต่สภาพการณ์หรือโอกาสแล้วล่ะก็
ยากที่ลูกจะเรียนรู้เรื่องวินัยอย่างได้ผล
เป็นแบบอย่าง
ใช่ว่าการพูดและสื่อสารกับลูกถึงสิ่งที่ลูกควรทำเพียงอย่างเดียวจะได้ผล คุณเองควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก
สอนไปทำไป เพื่อให้ลูกเห็นว่าทำอย่างไร แบบไหนเรียกว่าดีและได้รับการยอมรับ
พูดแล้วไม่ทำ แล้วคุณจะคาดหวังให้ลูกเข้าใจสิ่งที่สอนได้อย่างไรจริงไหมคะ
อดทน ไม่ว่าคุณจะสอน จะบอกให้ลูกทำอะไร
ลูกต้องอาศัยการเรียนรู้ ค่อยๆ เป็นไปทีละขั้น
บางครั้งกว่าจะได้อย่างที่คุณคาดหวังอาจต้องใช้เวลาอยู่สักหน่อย
คุณจึงต้องอดทนไม่โมโห อารมณ์เสียใส่หรือดุว่าลูก
เพราะแทนที่จะทำให้ลูกเข้าใจกฎระเบียบและการกระทำนั้นๆ
กลับจะยิ่งต่อต้านและไม่ทำตามอีกต่างหาก
สื่อสารพูดคุย ทำความตกลงร่วมกันถึงขอบเขตของสิ่งที่ทำได้และไม่ได้
เวลาที่ลูกไม่เป็นไม่ตามที่ตกลง ต้องมีวิธีตักเตือน ใช้น้ำเสียงที่หนักแน่น
ให้ลูกรับรู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่ถูกต้องแต่ไม่ถึงกับเป็นการข่มขู่นะคะ
เพราะจะทำให้ลูกยิ่งกลัวไปกันใหญ่
นอกจากนี้ การฝึกวินัยกับลูกให้ได้ผลดี
เรื่องความสนุกลืมไม่ได้เลยนะคะ
เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ลูกยอมรับและทำตามกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้
เมื่อลูกสนุกแล้วก็จะมีความสุขกับสิ่งที่ทำด้วยค่ะ
วินัยไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเด็กๆ หากพ่อแม่รู้เทคนิคที่เหมะสมก็สามารถแปรเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันให้กลายเป็น
กิจกรรมสุดหรรษาที่สอนเรื่องวินัยควบคู่ไปกับการเล่นได้อย่างกลมกลืน
แหล่งที่มา
ModernMom, http://women.kapook.com
เครดิตภาพ
http://www.lovethispic.com/image/138703/most-beautiful-baby
No comments:
Post a Comment