การเลี้ยงดูลูกให้เติบโตเป็นคนเก่ง คนดี มีความสุข และมีคุณภาพนั้น คุณพ่อคุณแม่มีส่วนสำคัญมากที่สุด แนวทางในการดูแลลูกให้มีพัฒนาการตามวัยในทุกด้านอย่างเหมาะสมนั้นประกอบด้วย ปัจจัยต่างๆ มากมาย ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นเราลองมาดูกันเลยดีกว่า
1. ดูแลเรื่องอาหารการกิน อาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยพัฒนาสมองของเด็กให้เจริญเติบโตอย่างมี
ศักยภาพ ดังนั้นในทุกๆ มื้อลูกจึงต้องได้รับอาหารครบทั้ง
5 หมู่ ซึ่งหากคุณแม่ไม่แน่ใจว่า
ในแต่ละวันลูกรักได้รับสารอาหารเพียงพอหรือไม่ การเสริมอาหารในรูปของเครื่องดื่มมอลต์สกัดที่มีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรต
โปรตีน เกลือแร่ และวิตามินอีกกว่า 50 ชนิด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายในมื้อเช้า เพื่อเพิ่มพลังงานและความสามารถในการจดจำรวมทั้งสมาธิได้เป็นอย่างดีและอีกมื้อก่อนนอน ลูกรักก็จะอิ่มและหลับสนิท พร้อมทั้งตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่นแจ่มใส ซึ่งถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยเติมคุณค่าของสารอาหารในแต่ละวันของลูกรักได้อย่างครบถ้วน
2. ส่งเสริมให้ลูกออกกำลังกาย ในวัยกำลังเจริญเติบโต และในวัยเรียนนั้น ร่างกายจะมีพละกำลังในการทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย การให้เด็กได้ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและมีอารมณ์แจ่มใสแล้วยังช่วยให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายและสมองได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นการออกกำลังกายในช่วงเช้าๆ วิตามินดีจากแสงแดดอ่อนๆ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกอีกด้วย
3. พักผ่อนอย่างพอเพียง การนอนหลับถือเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้สมองตื่นตัวเต็มที่ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความจำดี ดังนั้นคุณจึงควรควบคุมวินัยการนอนของเด็กให้มีเวลานอนและตื่นที่แน่นอนสม่ำเสมอ นอกจากนั้นคุณควรจัดให้เด็กนอนในห้องที่มีความเหมาะสม เช่น ไม่ควรมีโทรทัศน์ หรือเครื่องรบกวนการนอนอื่นๆ ไม่สว่างเกินไป เงียบ และมีอุณหภูมิพอเหมาะ เป็นต้น
4. เสริมสร้างกิจกรรมการเล่นให้กับลูก เด็กในแต่ละช่วงวัยจะเล่นแตกต่างกันไปตามความสามารถของพัฒนาการทั้งด้านร่าง กาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา การเลือกสรรค์ของเล่นให้เหมาะกับพัฒนาการของลูกรัก ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กได้พัฒนาศักยภาพทางด้านร่างกาย ความคิดสร้างสรรค์ และความเฉลียวฉลาดควบคู่กันไป
5. เลี้ยงลูกด้วยความรัก ความอบอุ่นและมีเวลาให้อย่างสม่ำเสมอ โดยการกอด การสัมผัสที่อบอุ่น การให้ความสนใจ รวมทั้งการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันภายในครอบครัว จะช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า เป็นที่รักของพ่อและแม่ เมื่อเด็กมีความรู้สึกดีต่อตัวเอง มีความมั่นคงทางจิตใจ สมองก็จะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่รวดเร็วตามไปด้วย
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเคล็ดไม่ลับในการดูแลลูกรักให้สดใสแข็งแรง ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลลูกรักอย่างถูกต้องต่อไป
2. ส่งเสริมให้ลูกออกกำลังกาย ในวัยกำลังเจริญเติบโต และในวัยเรียนนั้น ร่างกายจะมีพละกำลังในการทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย การให้เด็กได้ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและมีอารมณ์แจ่มใสแล้วยังช่วยให้เลือดไปเลี้ยงร่างกายและสมองได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นการออกกำลังกายในช่วงเช้าๆ วิตามินดีจากแสงแดดอ่อนๆ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกอีกด้วย
3. พักผ่อนอย่างพอเพียง การนอนหลับถือเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยให้สมองตื่นตัวเต็มที่ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความจำดี ดังนั้นคุณจึงควรควบคุมวินัยการนอนของเด็กให้มีเวลานอนและตื่นที่แน่นอนสม่ำเสมอ นอกจากนั้นคุณควรจัดให้เด็กนอนในห้องที่มีความเหมาะสม เช่น ไม่ควรมีโทรทัศน์ หรือเครื่องรบกวนการนอนอื่นๆ ไม่สว่างเกินไป เงียบ และมีอุณหภูมิพอเหมาะ เป็นต้น
4. เสริมสร้างกิจกรรมการเล่นให้กับลูก เด็กในแต่ละช่วงวัยจะเล่นแตกต่างกันไปตามความสามารถของพัฒนาการทั้งด้านร่าง กาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา การเลือกสรรค์ของเล่นให้เหมาะกับพัฒนาการของลูกรัก ถือเป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้เด็กได้พัฒนาศักยภาพทางด้านร่างกาย ความคิดสร้างสรรค์ และความเฉลียวฉลาดควบคู่กันไป
5. เลี้ยงลูกด้วยความรัก ความอบอุ่นและมีเวลาให้อย่างสม่ำเสมอ โดยการกอด การสัมผัสที่อบอุ่น การให้ความสนใจ รวมทั้งการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันภายในครอบครัว จะช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า เป็นที่รักของพ่อและแม่ เมื่อเด็กมีความรู้สึกดีต่อตัวเอง มีความมั่นคงทางจิตใจ สมองก็จะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่รวดเร็วตามไปด้วย
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเคล็ดไม่ลับในการดูแลลูกรักให้สดใสแข็งแรง ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลลูกรักอย่างถูกต้องต่อไป
แหล่งข้อมูลที่มา
นิตยสารกุลสตรี คอลัมน์คุยเรื่องสุขภาพ
www.formumandme.com
เครดิตาพ https://www.pinterest.com/aibiyasuhara/cute-babies/
เครดิตาพ https://www.pinterest.com/aibiyasuhara/cute-babies/
No comments:
Post a Comment