ความสวยอ่อนเยาว์เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันถึง
แต่จะมีวิธีไหนที่ทำให้ความสวยนั้นคงอยู่กับเราได้นานที่สุด ลองมาดูกัน
1. ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ
น้ำเปล่านอกจากจะทำให้ร่างกายสดชื่น
กระปรี้กระเปร่าแล้ว ยังช่วยให้กระบวนการขับของเสียของร่างกาย
ทำงานได้อย่างง่ายดาย ไม่ทำให้อ้วน
น้ำจะช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพ สร้างความชุ่มชื้นให้ผิว
ช่วยการทำงานของสมอง การปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ แม้เพียงเล็กน้อย เป็นเวลานาน ๆ
จะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นนิ่วในไต มะเร็งในลำไส้ใหญ่และในทางเดินปัสสาวะ
2. เสียเหงื่อบ้าง
มีการวิจัยล่าสุดบอกว่า การออกกำลังกายให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นจนเหงื่อออก
จะช่วยเสริมสร้างความอ่อนเยาว์ได้วิเศษที่สุด ถ้าคุณออกกำลังกายจนหัวใจเต้นในอัตรา
80 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการเต้นสูงสุดของวัย (ซึ่งคำนวณโดยใช้
220 ตั้ง ลบด้วยอายุ แต่ถ้าคุณออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างเย็น
ก็ไม่ต้องใช้เครื่องวัดอะไร เพราะจะรู้ได้ทันทีที่เหงื่อไหลหยด) จะทำให้เส้นเลือดของคุณมีความยืดหยุ่น
เพราะได้ขยายตัวอยู่บ่อย ๆ ช่วยลดความดันโลหิตในที่สุด
3. นวดผ่อนคลาย
ความเครียดเป็นหนึ่งในตัวการทำลายสุขภาพและความอ่อนเยาว์ที่สำคัญที่สุด
การจัดการความเครียดยังนับว่ายากเป็นอันดับต้น ๆ การนวดแบบธรรมดา ๆ ก็ลดระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลที่ก่อความเครียดได้แล้ว
และการนวดยังช่วยกระตุ้นการปลดปล่อยสารแก้ปวดตามธรรมชาติที่เรียกว่าโอ ปิออยด์สในสมองด้วย
และยังเร่งการไหลเวียนของอ็อกซีโทซิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
และกระตุ้นความรู้สึกสงบและพึงพอใจด้วย
4. ลดน้ำตาล
รู้ไหมว่าเมื่อกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือด โปรตีนตัวที่มันมุ่งหน้าไปหาก่อนอย่างอื่น
(และจะทำลายมากที่สุด) ก็คือคอลลาเจนและอิลาสติน ซึ่งเข้าใจกันว่ามีส่วนช่วยรักษาความยืดหยุ่นของผิวหนัง
ลองกินผลไม้แทนของหวานจะดีกว่าเพราะให้ทั้งความหวาน ใยอาหารและดีต่อสุขภาพด้วย
5. กินผักให้มากขึ้น
ผักเป็นแหล่งแคลเซียมที่ป้องกันโรคกระดูกพรุนได้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าแคลเซียมจากสัตว์ อย่างนม เนยแข็ง และโยเกิร์ต แม้นมจะอุดมแคลเซียม แต่เอ็นไซม์ชื่อฟอสเฟเตส
ซึ่งช่วยดูดซึมแคลเซียม และมีอยู่ในนมที่รีดมาสด ๆ จากแม่วัวนั้น
จะถูกทำลายไประหว่างกระบวนการพาสเจอไรซ์ ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า
เราดูดซึมแคลเซียมจากนมได้เพียงราว 32 เปอร์เซ็นต์ แต่ได้ถึง
50 เปอร์เซ็นต์ถ้าเป็นแคลเซียมจากผักใบเขียว ลองกินผักชนิดที่มีใบสีเขียวเข้มให้ได้สัปดาห์ละ
5 มื้อ โดยเฉพาะพวกบร็อคโคลี่ คะน้า หรือผักบุ้ง เพราะผักเป็นทั้งแหล่งแคลเซียมชั้นดี
ให้ใยอาหาร ต่อต้านมะเร็ง และอุดมด้วยสารอาหารต่าง ๆ มากมาย
6. หลับเพื่อความงาม
การหลับไม่เพียงพอทำให้ร่างกายยิ่งเสื่อมโทรม
เพื่อให้ร่างกายมีโอกาสฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเอง ลองเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลา
งดการงีบหลับนอกเวลา ออกกำลังกายเป็นประจำ ดูแลให้เตียงนอนได้สบาย
ห้องนอนมีแสงและเสียงรบกวนน้อยที่สุด ก่อนนอนก็ควรทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
อย่างฟังดนตรี อ่านหนังสือ ดื่มนมอุ่น ๆ หรืออาบน้ำอุ่น
7. อย่านำผลไม้แช่เย็น
เก็บผลไม้ไว้ในอุณหภูมิห้องจะช่วยเพิ่มสารต่าง
ๆ ที่เสริมสุขภาพทำงาน ผลไม้สีแดง อย่างมะเขือเทศ แตงโม ฝรั่งแดง และเกรฟฟรุตสีแดงหรือชมพู
ที่เก็บในอุณหภูมิห้องจะมีเบต้าแคโรทีน (ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ
ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ) มากกว่าผลไม้แช่เย็นถึงสองเท่า
อุณหภูมิปกติยังเพิ่มไลโปซีน (สารต้านอนุมูลอิสระที่ดีอีกตัว)
ในผลไม้ได้ถึง 20 เท่า
8. คิดบวก
คนที่มองโลกในแง่ดีมีอายุเฉลี่ยยืนยาวกว่าคนมองโลกในแง่ร้าย
ผลการวิจัยของเนเธอร์แลนด์พบว่าคนที่มองอนาคตและความสัมพันธ์ในแง่บวกจะลดอัตราการเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้
23 เปอร์เซ็นต์ และลดอัตราการตายก่อนวัยอันควรจากสาเหตุอื่น
ๆ ได้ 55 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็อย่าลืมหัวเราะในทุก ๆ วัน
การหัวเราะเป็นเหมือนยาคลายเครียด มันช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
9. งดแอลกอฮอล์และหยุดสูบบุหรี่
ทั้งสองสิ่งนี้นอกจากจะมีอันตรายกับอวัยวะของร่างกายแล้ว
ยังทำลายสารต้านอนุมูลอิสระของร่างกายด้วย ส่งผลให้สาวดื่มหนักและสาวนักสูบแลดูมีอายุกว่าวัย
แถมยังทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำจนขาดความชุ่มชื่น ผิวพรรณแห้งกร้าน ไม่สดใสเปล่งปลั่ง
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment