5 สิ่งอันตรายใกล้ตัว...ทำลายสมองลูก
พัฒนาการเด็กเล็กจะ เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์และแข็งแรงขึ้นอยู่กับสิ่งของรอบตัวในบ้านที่พ่อ
แม่อาจจะละเลยหรือไม่ทันได้ฉุกคิด และคาดไม่ถึงว่าจะอันตรายต่อลูกน้อย วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีเคล็ดลับจากนิตยสาร
Mother & Care กับ 5 สิ่งต่อไปนี้ที่ลูกน้อยควรอยู่ให้ห่างไกลมาแนะนำกัน
ภัยใกล้ตัวลูกจะมีอะไรบ้างนั้นเราไปดูกันเลยค่ะ
ฉบับนี้ขออนุญาตนำบทความบางส่วน ของ พญ.จันทร์เพ็ญ
ชูประภาวรรณ นักวิชาการอิสระ ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองเด็ก ที่เคยตีพิมพ์ไปแล้ว แต่เรื่องสมองลูกไม่ใช่เรื่องที่พ่อแม่
"เอาไว้ก่อน" ได้ ต้องเป็นเรื่องที่ "ต้องทำเดี๋ยวนี้" เท่านั้น เราจึงนำมาย้ำเตือนกันค่ะ
1. โทรทัศน์ : จากงานวิจัยของประเทศสหรัฐอเมริกา
เปรียบเทียบเด็กที่ดูโทรทัศน์วันละ 1 ชั่วโมง
กับเด็กที่ไม่ได้ดูเลย เมื่อผ่านไป 1 ปี พบว่า พัฒนาการเด็กที่ดูโทรทัศน์ต่ำกว่าเด็กที่ไม่ได้ดูอย่างชัดเจน
และมีคำแนะนำว่าถ้าจะให้ลูกดู ควรดูหลัง 6 ขวบไปแล้ว เพราะโทรทัศน์มีทั้งภาพ
และเสียงที่ไปกระตุ้นสมองกลายเป็นเด็กสมาธิสั้น เพราะเด็กใช้ประสาทสัมผัสเพียง 2
ส่วน คือ ตากับหู จึงขัดแย้งในกระบวนการเรียนรู้ของเด็กเล็กที่ต้องเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัส
ทั้ง 6 นั่นเอง ทำให้สมองส่วนอื่น ๆ ไม่ถูกใช้งาน
ถือว่าเป็นการทำลายสมอง
2. อาหารขยะ : อาหารพวกนี้ส่วนใหญ่ทำจากแป้ง
ย่าง หรือทอดด้วยความร้อนสูง ในอาหารมีแต่น้ำตาลและไขมันไม่ดี เด็กที่อายุไม่ถึง 3
ขวบ ถ้าได้กินบ่อย ๆ จะทำให้กระบวนการพัฒนาเซลล์สมองด้อยประสิทธิภาพ
ส่งผลให้ไอคิวต่ำกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน และต้องอย่าลืมว่าวัยแรกเกิด-3 ขวบ เป็นวัยที่สมองพัฒนาได้สูงสุด
3. บุหรี่ : บ้านไหนที่ผู้ใหญ่ยังละที่จะสูบไม่ได้
และเด็กที่อยู่ใกล้ชิดยังคงได้สูดดมอยู่ รู้หรือไม่ว่าอากาศที่มีควันบุหรี่นั้นจะทำให้สมองเสื่อม
เพราะได้รับสารพิษจากควันบุหรี่นั่นเอง
4. ของเล่น : ของเล่นของใกล้ตัวลูกมากที่สุดก็มีสารพิษ
โดยเฉพาะของเล่นพลาสติกที่ไม่ได้มาตรฐาน จะมีสารตะกั่ว สารปรอทปนเปื้อน หากลูกหยิบจับเข้าปาก
เล่นเป็นเวลานาน สารเหล่านี้ก็เข้าไปสะสมในร่างกาย ส่งผลต่อสมองได้
ดังนั้นก็ต้องเลือกของเล่นที่ได้รับรองความปลอดภัย หรือหลีกเลี่ยงของเล่นจำพวกพลาสติก
หรือของเล่นแต่งสีต่าง ๆ หาของเล่นจากธรรมชาติให้ลูกเล่นกันดีกว่า
5. ไอ..ทั้งหลาย : ไม่ว่าจะเป็นไอโฟน ไอแพด
แท็บเล็ต หน้าจอเล็ก ๆ ที่บันดาลเรื่องสนุกด้วยปลายนิ้วทั้งหลายนั้น แม้จะยังไม่มีใครยืนยันว่าส่งผลร้ายต่อสมองเด็กโดยตรงอย่างไร
แต่ก็คงไม่ต่างกับโทรทัศน์มากนัก แถมเจ้าเครื่องมือเหล่านี้ ยังมีแสงสีฟ้าที่ทำลายประสาทตา
และทำลายทักษะต่าง ๆ ที่เด็ก ๆ ควรจะได้พัฒนาตามวัยด้วย
ดังนั้นควรให้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และมีกติกาชัดเจนในการใช้งาน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Mother & Care
Vol.11 No.132 ธันวาคม 2558
http://baby.kapook.com
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/32440059793944447/
No comments:
Post a Comment