ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องรุนแรงอะไรที่ลูกจะมีปัญหาทุกครั้งที่พาเข้านอน แต่ถ้าดูกันลึก ๆ แล้ว คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องเอาใจใส่ หาสาเหตุและทางแก้ไข เพราะแม้จะเป็นปัญหาเล็ก ๆ แต่ถ้าสะสมไปก็จะลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ได้ โดยเฉพาะกับลูกวัยนี้แล้ว การพักผ่อนไม่เต็มที่ มีผลกับพัฒนาการและการเรียนรู้ของลูกด้วย
ใช้ไม้อ่อนปราบคนนอนยาก...ดีกว่า
ถ้าลูกยังห่วงเล่น ควรบอกลูกล่วงหน้าสักหน่อยเพื่อเป็นการเตือนว่า ใกล้จะถึงเวลานอนของหนูแล้วนะ แม่ให้เวลาอีกแป๊บเดียว หนูเก็บของเล่นได้แล้วนะคะ การบอกล่วงหน้าเพื่อเป็นการให้ลูกได้เตรียมใจ และไม่รู้สึกว่าถูกบังคับหรือถูกพรากไปจากของที่แกเล่นอยู่
ถ้าลูกเป็นเด็กวิตกกังวลหรือดูว่าจิตใจว้าวุ่น หวาดระแวง และหาทางออกด้วยการดูดนิ้ว ดูดขวดนม หรือกอดตุ๊กตาไว้แน่น เพื่อช่วยให้ตัวเองรู้สึกเพลิน อย่างนี้ต้องอนุโลมยอมให้แกทำแบบนี้ ไม่ต้องกลัวลูกจะติดหรอกค่ะ เดี๋ยวถึงวัยที่เหมาะสมก็จะเลิกได้เอง
จัดสรรเวลานอนกลางวันของลูกให้เหมาะสม เช่น ถ้าการนอนตอนบ่ายค่อนไปตอนเย็นก็ให้เลื่อนเวลามานอนตอนสาย ๆ แทน และต้องดูด้วยว่า ระยะเวลาในการนอนกลางวันของลูกมากเกินไปรึเปล่า เพราะโดยปกติเด็กวัยนี้ต้องการนอนหลับในตอนกลางวันประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น ในขณะที่ต้องการการนอนตอนกลางคืนถึง 11-12 ชั่วโมง
พยายามจัดสิ่งแวดล้อมให้ดูสบาย ๆ สงบเงียบ เช่น ถ้าใกล้ถึงเวลานอนของลูก คุณพ่อคุณแม่ก็ควรที่จะปิดทีวีแล้วพาลูกเข้านอน สังเกตดูที่นอนของลูกด้วยว่า ปกติดีไหม อากาศเป็นยังไง แสงสว่างมากหรือน้อยไป มีมดแมลงอยู่หรือเปล่า
ให้ลูกเข้าห้องน้ำตอนกลางวันสม่ำเสมอ เพื่อกลางคืนลูกจะได้ไม่ตื่นเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ
ถ้าลูกกลัวต้องปลอบโยนและช่วยเหลือลูก เช่น ถ้ากลัวความมืดก็เปิดไฟสลัวๆ ทิ้งไว้ และควรพูดให้ความมั่นใจว่าพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ ถ้าหนูกลัวก็เรียกได้พ่อแม่ได้ยินเสียงจะรีบเข้ามาหาทันที แต่ถ้าลูกยังกลัวอยู่ คุณก็คงต้องนอนกับแกไปสักระยะหนึ่ง 3-4 วันผ่านไปเมื่อแกเห็นว่าไม่มีอะไรน่ากลัวแกก็จะกล้านอนคนเดียวในที่สุด
ก่อนเข้านอนจัดการธุระของลูกให้เรียบร้อย พาแกไปเข้าห้องน้ำ แปรงฟันหรือฉี่เสียให้เสร็จ และต้องแน่ใจว่าแกไม่อิ่ม หิว หนาวหรือร้อนเกินไป
พยายามทำให้แกรู้สึกว่ารัก เช่น อุ้มแกเดินเล่นเพลิน ๆ ก่อนพาเข้านอน หรือกอด หอมแก้มแกบ้าง หรือเป็นคนพาแกเข้านอนเอง ให้แกรู้สึกว่าคุณไม่ได้ทอดทิ้งแกให้อยู่แต่กับพี่เลี้ยง
ไม่ควรจู้จี้ บังคับลูกมากเกินไป ยิ่งช่วงแรก ๆ ของการฝึกให้ลูกนอนเป็นเวลานั้น คุณยิ่งต้องยืดหยุ่น อย่าบังคับแต่อาจใช้เทคนิคอื่น ๆ แทน เช่น พาแกไปอยู่ในมุมเงียบ ๆ (หรือบนเตียงแกก็ได้) ห่างไกลจากสิ่งเร้าทั้งหลาย โอบอุ้มแกไว้ เล่านิทาน หรือเปิดเพลงคลอเบา ๆ ให้แกรู้สึกว่ากล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย ลูกก็จะไม่ต่อต้าน เพราะไม่รู้สึกว่าวิธีปฏิบัตินี้เป็นการบังคับแต่กลับรู้สึกว่าพ่อแม่รัก
สำคัญมากที่สุดคือ ถ้าลูกนอนเป็นเวลาได้แล้วหรือนอนหลับได้ตลอดคืน ไม่มีปัญหาเหมือนเมื่อก่อน หลังจากใช้กลยุทธ์ข้างต้นแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรชมเชยลูกด้วยท่าทีที่จริงใจและให้กำลังใจแกเสมอ
โดย : นงพุธ
แหล่งที่มา modernmom, http://baby.kapook.com
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/449585975281726980/
No comments:
Post a Comment