Tuesday, March 31, 2015

6 เหตุผลน่าสนใจว่าทำไมคนถึงชอบนอนดึก


          ในปัจจุบันมีคนมากมายที่ชอบนอนดึกหรือบางทีก็อาจไม่นอนจนถึงสว่าง ไปกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่เพื่อน ๆ เคยนึกสงสัยไหมว่าทำไมพวกเขาชอบใช้เวลาทำสิ่งต่าง ๆ ในตอนกลางคืนมากกว่ากลางวันล่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงหยิบเอาเหตุผลที่น่าสนใจไม่น้อยจากเว็บไซต์ mensxp มาบอกต่อกันแล้วครับ

ปราศจากสิ่งรบกวน

          เรียกได้ว่าตอนกลางคืนเป็นช่วงเวลาที่ดีเลยทีเดียวที่จะทำกิจกรรมอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเคลียร์งาน อ่านหนังสือ ฟังเพลง และดูหนัง เพราะเป็นเวลาที่ไม่ค่อยมีอะไรมารบกวนนั่นเอง ซึ่งหากทำสิ่งเหล่านี้ในตอนกลางวัน ก็อาจมีปัจจัยหลายอย่างมารบกวนกิจกรรมยามว่างของคุณ เช่น มีคนมาชวนคุย โทรศัพท์และข้อความจากมือถือ และบรรยากาศแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวน เป็นต้น

ความเงียบช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น

          แม้ว่าช่วงค่ำถึงดึก อาจไม่เงียบไปซะทีเดียว เพราะบางครั้งมักมีเสียงรถขับผ่านหน้าบ้านและเสียงคนคุยกันบ้าง แต่มันก็เป็นเวลาที่เงียบสงบพอที่จะทำให้มีสมาธิสำหรับการทำงานและสร้างบรรยากาศในการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้คุณเองก็ต้องระวัง อย่าทำเสียงดังจนเป็นการรบกวนคนอื่นซะเองล่ะ

ยิ่งมืดเท่าไรยิ่งดี

          สำหรับคนที่รักในความเงียบและไม่ชอบแสงสว่างเท่าไร ช่วงดึก ๆ คงเป็นช่วงเวลาโปรดปรานที่สุดสำหรับการพักผ่อน ที่ทำให้การดูหนังได้อารมณ์สุด ๆ ไม่แพ้ไปดูในโรงหนัง รวมถึงใส่หูฟัง เปิดเพลงฟังเบา ๆ พร้อมกับหลับตาไปด้วย ซึ่งเป็นการพักสมองอย่างดีเลยเชียว
 
สมองทำงานดีกว่าในตอนกลางคืน

          ผลวิจัยในต่างประะเทศ ระบุว่าสมองจะทำงานช่วงกลางวันได้ไม่เต็มที่ แต่กลับทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วกว่าในตอนกลางคืน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มสมาธิให้จดจ่อกับสิ่งที่ทำได้ดี จนทำให้งานต่าง ๆ สำเร็จไวขึ้น

คนนอนดึกอาจฉลาดกว่าคนนอนเร็ว

          มีการศึกษาจากต่างประเทศ ค้นพบว่าคนชอบอยู่ดึกจะฉลาดและมีความคิดสร้างสรรค์กว่าคนที่นอนเร็ว อีกทั้งยังเป็นคนที่ชอบเข้างานสังคมมากกว่าด้วย

 
ไม่ต้องวุ่นวายกับคนอื่นมาก

          ถ้าคุณเป็นคนไม่ค่อยชอบพบปะและพูดคุยกับผู้คนเท่าไร แต่อยากทำอะไรคนเดียวมากกว่า ช่วงกลางคืนจึงเป็นเวลาที่ดีสำหรับการพักผ่อนเงียบ ๆ เพราะตอนกลางคืนคุณไม่ต้องสุงสิงกับใครนั่นเอง

          หลังจากได้ทราบเหตุผลที่คนชอบนอนดึกกันไปแล้ว คงช่วยให้หายข้องใจได้ไม่มากก็น้อยนะครับ แต่ถึงอย่างนั้น มันคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรหากคุณฝืนนอนดึกกันทุกวี่ทุกวัน เพราะนอกจากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว ยังทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถและการทำงานลดลงด้วย ยังไงก็พิจารณาตามความเหมาะสมด้วยนะครับ


Saturday, March 28, 2015

ประโยชน์ของลูกพลับ


 

1. ลูกพลับเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีและไขมันต่ำ และยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร จึงเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก

2. ลูกพลับมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ

3. หากนำลูกพลับมาหมักให้เปรี้ยว 1 ปีขึ้นไปจะมีสรรพคุณทางยาสูงขึ้น ช่วยบำรุงร่างกายแก้อาการเหนื่อยล้า

4. ลูกพลับ ประโยชน์ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ป้องกันต้อกระจก ตาฟาง

5. ช่วยบำรุงลำไส้ บำรุงปอดและม้าม

6. ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ

7. ช่วยแก้หืดหอบ (ผลแห้ง)



8. ช่วยลดความดันโลหิต

9. ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจและปอดได้

10 . ช่วยแก้โรคปอดและกระเพาะอาหาร ซึ่งเกิดจากการสร้างพลังงานของปอดที่ลดลง ทำให้มีอาการไอ หายใจติดขัด เส้นผมหลุดร่วงหยาบกระด้าง หากเป็นติดต่อกันนานๆ ชีพจร กล้ามเนื้อและกระดูก จะสร้างสารผิดปกติในผนังกระเพาะอาหารได้

11 .ใช้เป็นยาบรรเทาอาการร้อนใน (ผลแห้ง)

12. ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ (ผลแห้ง)

13. ส่วนกลีบเลี้ยงหรือก้านของผลลูกพลับสามารถนำมาทำเป็นยาเพื่อใช้แก้อาการสะอึกได้


 
14. ช่วยบรรเทาอาการไข้เพ้อ หรือไข้ที่เกิดจากอาการโกรธสุดขีด

15. สรรพคุณของลูกพลับ ช่วยแก้ไอ (ผลสด,ผลแห้ง)

16. ลูกพลับ สรรพคุณช่วยขับเสมหะ (ผลแห้ง)

17. ช่วยแก้พิษสุรา (ผลสด)

18. ช่วยแก้อาการท้องเดิน (ผลสด)

19. ช่วยบำรุงกระเพาะอาหารและลำไส้ (ผลแห้ง)

20. ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องซึ่งมีสาเหตุมาจากความเย็น เช่น ประจำเดือน ปวดบิด เป็นต้น

21. ช่วยแก้อาการบิดในเด็กที่ถ่ายเป็นมูกเลือด


 
22. ช่วยแก้อาการถ่ายเป็นเลือด

23. ช่วยในการขับถ่าย แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง

24. ช่วยแก้และบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร (ผลแห้ง)

25. ช่วยแก้อาการปัสสาวะเป็นเลือด (ผลแห้ง)

26. ช่วยแก้ต่อมไทรอยด์บวม (ผลดิบ)

27. สรรพคุณลูกพลับ ช่วยห้ามเลือด (ผลสด)

28. ช่วยลดผื่นจากไข้ หรือผื่นที่เกิดจากความร้อน

29. ช่วยแก้พิษจากเหล้า ช่วยทำให้หายจากการอาเจียนเป็นเลือด

30. ประโยชน์ของลูกพลับ มีส่วนช่วยลดฝ้ากระบนใบหน้า

 
31. ประโยชน์ลูกพลับ นอกจากจะใช้รับประทานเป็นผลไม้สดแล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็น ลูกพลับแห้ง พลับเชื่อม น้ำลูกพลับ แยมลูกพลับ ฯลฯ

32. ใบ ของลูกพลับสามารถนำมาทำเป็นชาไว้ชงดื่มได้ ด้วยการใช้ใบตากแห้งต้มกับน้ำเดือด ก็จะช่วยลดอาการแข็งตัวของหลอดเลือด แก้เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบตัน ลดความดัน ช่วยระบาย แก้อาการนอนไม่หลับ เป็นต้น

33.ไม้ของต้นพลับ สามารถนำมาใช้ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้

  

Sunday, March 22, 2015

5 ความสกปรกในบ้านที่มักถูกมองข้ามไป




          ความสกปรกในบ้าน มีหลายจุดที่หลายคนมองข้ามไปเฉย ๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าเป็นจุดเสี่ยงที่เต็มไปด้วยความสกปรก ลองมาเช็กดูกันค่ะ

          เคยไหมคะที่อุตส่าห์ออกแรงทำความสะอาดบ้านซะจนเหนื่อยหอบ แต่กลับต้องมาเห็นว่าบ้านไม่ค่อยสะอาดวิ้งเท่าที่ควร ทั้งที่ก็มั่นใจเกินร้อยว่าทำความสะอาดบ้านแทบจะทุกตารางนิ้วแล้วแท้ ๆ อ๊ะ ! คุณอาจจะมองข้ามความสกปรกเหล่านี้ไปหรือเปล่า บ้านเลยไม่สะอาดหมดจดสมกับความเหนื่อย รีบไปดูแล้วแก้ไขกันเลยจ้า

1. ชั้นวางของเปิดโล่ง

          เทรนด์การแต่งบ้านสมัยนี้เน้นความโปร่ง เปิดเผย เรียบง่าย เหล่าเฟอร์นิเจอร์เปิดโล่งอย่างชั้นวางของ ตู้โชว์ เลยเป็นไอเทมที่มีกันแทบทุกบ้าน ซึ่งจุดนี้นี่ล่ะค่ะที่มักจะสะสมฝุ่นเอาไว้มาก โดยที่เราเองก็ทำเป็นลืม ๆ มันไป เวลาที่ทำความสะอาดบ้านก็เลยไม่ได้เช็ดทำความสะอาดตู้โชว์เหล่านี้ไปด้วย สุดท้ายพื้นที่อื่น ๆ ในบ้านสะอาดหมดจด เหลือก็แต่ชั้นวางของแบบเปิดโล่งที่เป็นจุดอ่อน

2. หลอดไฟ

          แปลกใจใช่ไหมคะว่าทำไมบรรยากาศของบ้านถึงดูทึม ๆ ทั้งที่ยกแก๊งทำความสะอาดบ้านชุดใหญ่ไปแล้วแท้ ๆ นั่นก็อาจเป็นเพราะว่า คุณลืมทำความสะอาดหลอดไฟ โคมไฟในบ้านไปน่ะสิ เพราะสิ่งเหล่านี้ก็มีฝุ่นเกาะอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็จะทำให้หลอดไฟเปล่งแสงสว่างได้ไม่เต็มที่ บรรยากาศในบ้านเลยไม่ค่อยแจ่มเท่าไร

3. เคาน์เตอร์ครัวหินอ่อน

          สำหรับเคาน์เตอร์ครัวที่เป็นหินอ่อน หลังทำความสะอาดไปแล้วจะเห็นเลยว่าคราบสกปรกยังไม่หายไปง่าย ๆ กรณีนี้ต้องอาศัยเคล็ดลับทำความสะอาดเคาน์เตอร์หินอ่อนโดยเฉพาะค่ะ โดยผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับแป้งข้าวโพดให้พอเป็นเนื้อครีมข้นเหนียว จากนั้นนำมาทาให้ทั่วพื้นที่เคาน์เตอร์ ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงแล้วค่อยขูดแป้งออก จากนั้นก็ทำความสะอาดตามปกติ ทว่าสำหรับคราบเปื้อนจากน้ำมัน ให้เปลี่ยนส่วนผสมจากไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นน้ำยาล้างจานแทนนะคะ

4. ผ้าเช็ดมือในห้องน้ำ

          ทั้งผ้าเช็ดมือและพรมเช็ดเท้าในห้องน้ำ ไอเทมเหล่านี้มักจะสะสมทั้งความชิ้นและเชื้อโรคได้ดีกว่าพื้นที่อื่น ๆ ฉะนั้นต่อให้ทำความสะอาดห้องน้ำอย่างหมดจดแค่ไหน แต่ดันลืมเปลี่ยนผ้าเช็ดมือและซักพรมเช็ดเท้า ห้องน้ำของคุณก็ยังมีความสกปรกอยู่วันยังค่ำ

5. ตะกร้าซักผ้า

          กลิ่นเหม็นตุ ๆ ภายในห้องซักรีดหรือห้องนอนอาจไม่ได้เกิดจากผ้าที่ยังไม่ได้ซัก หรือวัสดุอื่น ๆ ก็ได้ ทว่าอาจมีที่มาจากตะกร้าซักผ้าของคุณต่างหาก ลองคิดดูสิคะว่า ตะกร้าผ้ารับหน้าที่แบกผ้าที่ยังไม่ได้ซักตั้งกี่ชิ้น ทำหน้าที่มานานตั้งกี่เดือนกี่ปี ฉะนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมเสื้อผ้าถึงไม่ค่อยสะอาดเท่าที่ควร หรืออากาศภายในห้องนอนถึงไม่สดชื่นเท่าที่อยากให้เป็น เอาล่ะ ! นับจากนี้ต่อไปก็อย่าลืมทำความสะอาดตะกร้าผ้าด้วยนะจ๊ะ

          ถ้าอยากให้บ้านสะอาดหมดจดอย่างแท้จริง จุดสกปรกในบ้านทั้งหมดนี้ก็ห้ามมองข้ามเด็ดขาดเลยนะคะ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Saturday, March 21, 2015

20 วิธีเตรียมพร้อม..ก่อนทิ้งบ้านเที่ยวยาววันสงกรานต์ !




          วางแผนเที่ยวสงกรานต์ยาว ๆ แต่ก็ห่วงบ้าน กลัวทั้งโจร กลัวทั้งไฟไหม้ เลยต้องมีแผนเตรียมบ้านให้พร้อมก่อนออกเดินทางกันหน่อย

          วันหยุดยาวแห่งปีมาแล้ว !! ถึงสงกรานต์ทีไรใคร ๆ ต่างก็อยากทิ้งบ้านออกไปเที่ยวไกล ๆ ซะทุกที ทั้งกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ไปเที่ยวเมืองนอก หรือแม้กระทั่งไปเที่ยวตามสถานที่พักตากอากาศใกล้ ๆ เพราะเป็นช่วงหน้าร้อนที่เหมาะกับการออกเที่ยวพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง

          แต่พอคิดถึงเวลาที่ต้องทิ้งบ้านไปยาว ๆ ไม่มีใครคอยเฝ้า ใจก็ตุ้ม ๆ ต่อม ๆ กลัวทั้งขโมยขโจร หรือแม้กระทั่งอุบัติภัยที่คาดไม่ถึงอย่าง ไฟไหม้ ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำเอาเคล็ดลับในการเตรียมความพร้อมให้กับ บ้าน ก่อนออกเที่ยวสงกรานต์อย่างสบายใจ มาฝากกัน ลองทำตามดูเผื่อจะเที่ยวได้สนุกขึ้นนะคะ

1. เคลียร์ตู้เย็น
 

          สำหรับใครที่ชอบตุนอาหารสดไว้ในตู้เย็นเป็นประจำ คงถึงเวลาที่คุณจะต้องกำจัดอาหารเหล่านั้นออกจากตู้เย็นแล้วล่ะ เพราะถึงแม้ว่าอาหารจะแช่อยู่ในตู้เย็น แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าในช่วงเวลาที่คุณไม่อยู่บ้าน อาหารเหล่านั้นจะคงอยู่ในสภาพที่ยังรับประทานได้อยู่ ชิงจัดการเสียก่อนที่อาหารเหล่านั้นจะเน่าเสียคาตู้ ดูจะเหนื่อยน้อยกว่าต้องกลับมาล้างตู้เย็นนะคะ

  
2. ลงทุนกับแม่กุญแจ

          จะล็อกบ้านให้แน่นหนาทั้งที แม่กุญแจดี ๆ ถึงจะมีราคาแพงก็ลงทุนหน่อยดีกว่า อย่างน้อย ๆ ถึงจะรู้ดีว่าโจรสมัยนี้สามารถจัดการกับแม่กุญแจได้ในเวลาน้อยนิด แต่ของดีก็คงถ่วงเวลาโจรได้อีกหน่อย เผื่อมีใครผ่านไปผ่านมาจะเห็นสถานการณ์ทัน

 
3. ซ่อมประตู-หน้าต่างที่ชำรุด

          เพื่อความปลอดภัยทางเข้าใด ๆ ที่ชำรุดอยู่ ทั้งประตู หน้าต่าง มุ้งลวด หรือแม้กระทั่งช่องโหว่อื่น ๆ ก็รีบจัดการซ่อมซะให้ทันก่อนออกเดินทาง และตรวจสอบความแน่นหนาให้ดี ๆ ถึงโจรจะไม่ค่อยเข้าตามตรอกออกตามประตู แต่กันไว้ก็ดีกว่าแก้ล่ะเนอะ

4. ซักเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว

          อาจจะดูไม่เกี่ยวเท่าไร แต่อย่าชะล่าใจว่าเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยคราบเหงื่อไคลและความสกปรก ที่สุมรวมกันอยู่ในตะกร้า จะไม่ก่อให้เกิดเชื้อโรคสารพัด เพราะทุกความสกปรกที่เราเจอมาจากนอกบ้านจะถูกอัดแน่นรวมกันอยู่ในตะกร้า กว่าจะกลับมาซักอีกที ก็คงขึ้นคราบเหลือง คราบรา ให้ต้องทิ้งหมดแล้วล่ะ อี๋ !

5. ติดตั้งสวิตช์อัตโนมัติ

          ถ้าในบ้านมีข้าวของที่มีค่า และพอมีงบประมาณสักหน่อย ลองตัดใจติดตั้งสวิตช์อัตโนมัติในบ้านหน่อยดีกว่า ทั้งสวิตช์สำหรับเปิด-ปิดไฟ รดน้ำต้นไม้ หรือพวกสัญญาณกันขโมยที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ เป็นต้น เพราะของไฮเทคเหล่านี้ถึงแม้จะมองว่าไม่จำเป็น แต่ก็ช่วยให้สะดวกสบายมากขึ้นได้มากเลยนะ

6. สร้างกรุ๊ปไลน์ หรือกลุ่มเฟซบุ๊ก คุยกับเพื่อนบ้าน
 

          ในเมื่อเราอยู่ในยุคโซเชียล ก็ต้องใช้งานโซเชียลให้เป็นประโยชน์ ด้วยการตั้งกรุ๊ปไลน์ หรือกลุ่มในเฟซบุ๊ก เพื่อพูดคุยกันในหมู่เพื่อนบ้าน จะได้คอยระแวดระวัง สอดส่องความปลอดภัยซึ่งกันและกันตอนไม่อยู่บ้านได้ แถมโซเชียลเหล่านี้ยังติดต่อกันได้รวดเร็ว อัพคลิป และรูป เป็นหลักฐานได้ทันท่วงทีซะด้วย

 
7. วางแผนความเป็นอยู่ให้ต้นไม้

          ต้นไม้ที่ไม่ได้รดน้ำเป็นเวลานานคงจะเหี่ยวเฉาไม่สดชื่น เอาใจใส่เขาแม้คุณจะไม่อยู่บ้านด้วยการฝากฝังบรรดาต้นไม้ ดอกไม้ของคุณให้เพื่อนบ้านช่วยดูแล หรือถ้าไม่อยากรบกวนใคร ก็ลงทุนนิดหน่อยด้วยการติดตั้งเครื่องตั้งเวลารดน้ำต้นไม้ที่มีขายอยู่ตาม ร้านขายต้นไม้ทั่วไป สนนราคาไม่เกิน 1,500 บาท หรือจะประดิษฐ์ขึ้นมาเองด้วยการใช้ขวดน้ำพลาสติก ปักลงไปดื้อ ๆ ในกระถางต้นไม้ ก็เก๋ไปอีกแบบนะคะ

8. หาที่อยู่ให้สัตว์เลี้ยง

          คงไม่ดีแน่ถ้าคุณปล่อยน้องหมาและน้องเหมียวอยู่บ้านโดยลำพัง ในช่วงเวลาที่คุณไปลั้ลลาอยู่ไกล ๆ แนะนำให้หาสถานที่รับฝากสุนัขและแมวที่มีบริการอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน ใช้เวลาตรวจสอบอย่างละเอียดว่าสถานที่นั้น ๆ มีความพร้อมมากพอที่จะดูแลสัตว์เลี้ยงสุดที่รักของคุณได้เป็นอย่างดี เมื่อแน่ใจแล้วก็พาน้องหมา น้องแมวไปฝากเลี้ยงไว้ดีกว่าค่ะ

 
9. ฉีดน้ำยากำจัดแมลงตามจุดต่าง ๆ

          ก่อนออกจากบ้าน จัดแจงดักทางแมลงเอาไว้ก่อน ด้วยการฉีดน้ำยากำจัดแมลงตามจุดต่าง ๆ ที่เป็นทางเดินหรือที่อาศัยของแมลงทั้งหลายก่อนออกจากบ้าน คุณจะได้ไม่ต้องเจอกับขบวนพาเหรดแมลงที่มาต้อนรับคุณกลับบ้านให้รำคาญใจอีก ต่อไป

10. เช็กไฟถนนหน้าบ้านว่าเสียหรือไม่

          ถ้าในหมู่บ้านมีเสาไฟถนนดวงไหนที่ไม่สว่าง ก็รีบแจ้งให้นิติบุคคลมาเปลี่ยนใหม่ทันที เราเสียค่าส่วนกลางไปแล้ว ไม่ควรมีจุดไหนที่ใช้การไม่ได้หรอกนะคะ เพราะนั่นหมายถึงช่องทางในการก่อให้เกิดภัยร้ายขึ้นก็ได้ เพราะไฟมืด ๆ คงสบายโจรเชียวล่ะ ดังนั้นจัดการแจ้งซ่อมซะก่อนออกเดินทางดีกว่า

11. เปิดไฟให้เหมือนมีคนอยู่
 

          บางครั้งการปิดไฟเงียบเชียบ ก็ทำให้เป็นที่สนใจได้ง่ายกว่าเหมือนกันนะ เพราะถ้าค่ำมืดแล้วยังไม่มีการเปิดไฟในบ้านหรือนอกบ้านเลยสักดวง คนส่วนใหญ่ก็เดาได้ว่าบ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่แน่ ๆ ดังนั้นเพื่อให้ทุกอย่างดูปกติ ลองเปิดไฟทิ้งเอาไว้สักดวง เช่น ไฟหน้าบ้าน หรือไฟห้องโถง ก็ได้ อย่างน้อยก็คงพอทำให้โจรลังเลได้เหมือนกัน

12. ฝากบ้านไว้กับตำรวจ

          เป็นโครงการที่มีมาเนิ่นนานและเหมาะสมสำหรับช่วงเทศกาลมาก ๆ แค่ติดต่อไปยังสถานีตำรวจเพื่อขอเข้าร่วมโครงการ ก็จะมีผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คอยแวะเวียนมาตรวจสอบความเรียบร้อยของบ้านคุณ ให้แล้วล่ะ สมัยนี้เขามีเทคโนโลยีที่ติดต่อกับเจ้าของบ้านได้ทางโซเชียลด้วยนะ ลองดูสักครั้งไม่เสียหาย

13. ติดกล้องวงจรปิด

          อาจจะดูเหมือนเป็นงานใหญ่ที่ต้องใช้งบ แต่การติดกล้องวงจรปิดสมัยนี้ก็ไม่ได้แพงและยุ่งยากอย่างที่คิดแล้วนะ อย่างน้อยแค่มีกล้องติดตั้งอยู่มิจฉาชีพก็คงลังเลที่จะเสี่ยงเข้าบ้านคุณไป ครึ่งทางแล้ว หรือถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้นจริง ๆ การลงทุนกับกล้องคุณภาพดีก็ยังช่วยให้ตามตัวคนร้ายได้เร็วขึ้นนะ

14. ไม่ต้องประกาศลงโซเชียล

          จะไปเที่ยวไหนทั้งที ยุคนี้ใคร ๆ ก็คงต้องอัพลงโซเชียลกันหน่อย แต่การป่าวประกาศว่าเราจะไม่อยู่บ้านนาน ๆ ก็ไม่ใช่ผลดีสักเท่าไรหรอกนะ หากคุณมีเพื่อนในโลกโซเชียลเป็นคนแปลกหน้า แล้วเขาคิดมิดีมิร้ายขึ้นมา บ้านของคุณที่เคยเช็กอินเอาไว้ เขาก็คงตามมาขนข้าวของออกไปได้ไม่ยากเลย

15. ฝากฝังเพื่อนบ้านช่วยดูแล

          นอกจากจะมีกลุ่มเพื่อนบ้านในโซเชียลแล้ว บ้านใกล้เรือนเคียงข้าง ๆ กัน ก็ต้องฝากฝังกับเขาอีกครั้งเป็นพิเศษ เพราะเขาจะได้คอยช่วยสังเกตบ่อย ๆ ตั้งแต่ความผิดปกติของบ้านเรา รวมไปถึงอาจจะช่วยรดน้ำต้นไม้ข้ามกำแพงมาถึงสวนของเราบ้างก็ยังดี เห็นไหมล่ะว่าเพื่อนบ้านน่ะสำคัญนะ

16. ขอเบอร์ติดต่อ รปภ. เอาไว้

          คนที่อยู่บ้านจัดสรรส่วนใหญ่มักมี รปภ. ที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านอยู่แล้ว อย่าลืมซื้อของติดไม้ติดมือไปฝาก เพื่อทำความรู้จักกันเอาไว้ แล้วขอเบอร์ติดต่อสำรองไว้เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน อาจจะฝากฝังให้ข่วยดูแลบ้านเป็นพิเศษ หรือถ้าบ้านไหนไม่ไว้ใจ รปภ. กลัวก่อเหตุซะเอง อย่างน้อยถ้ามีเบอร์ไว้ก็ตามตัวง่ายขึ้นอีกนิดล่ะเนอะ

17. ปิดแก๊ส ถอดปลั๊ก ปิดวาล์วน้ำ

          จะไม่อยู่บ้านตั้งหลายวัน อย่าลืมปิดเตาแก๊สให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันแก๊สรั่วจนเกิดประกายไฟ หรือเกิดแก๊สระเบิดขึ้นมา รวมถึงอย่าลืมถอดปลั๊กไฟให้เรียบร้อย จะได้ไม่มีกระแสไฟให้เสี่ยงกับไฟฟ้าลัดวงจร แนอกจากนี้ควรปิดวาล์วน้ำให้สนิท จะได้ไม่มีจุดไหนน้ำรั่วหรือน้ำล้น ไม่อย่างนั้นมีโอกาสขึ้นราแถมยังเปลืองค่าน้ำอีกด้วย

18. เปิดม่านเอาไว้บ้าง

          การปิดม่านให้สนิทอาจปิดบังภายในบ้านไม่ให้คนมองเข้ามาได้ แต่บางครั้งเราก็ควรซ้อนแผนหลอกมิจฉาชีพด้วยการแง้มม่านเอาไว้เป็นบางจุด เพื่อให้รู้สึกเหมือนมีคนอยู่ข้างในไม่ใช่ปิดประตูเงียบ อย่างน้อยถ้ามีใครคิดจะปีนเข้าบ้านเพื่อขโมยอะไร คงต้องชะงักกับสภาพบ้านที่ดูเหมือนมีคนอยู่บ้างสักนิด

19. ถ้ามีรถมอเตอร์ไซค์ให้จอดในบ้าน
         
          ถ้าในบ้านมีรถมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ได้จะเอาไปเที่ยวไกล ๆ ด้วยละก็ ให้เอาเข้าไปจอดในบ้าน หรือหาจุดจอดที่ลับตาคนหน่อยจะปลอดภัยกว่า การจอดเอาไว้หน้าบ้านแบบเห็นชัด ๆ อาจจะทำให้เสี่ยงต่อการหายได้นะ ถ้าจอดในบ้านก็อาจจะเพิ่มความยากไปอีกระดับ หรือถ้าเอาเข้าบ้านไม่ได้จริง ๆ เอาไปจอดแอบ ๆ ไว้หน่อยน่าจะปลอดภัยกว่า

20. เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดรอไว้เลย

          แน่นอนว่าไปเที่ยวนาน ๆ บ้านที่ไม่มีคนอยู่คงเต็มไปด้วยฝุ่นเขรอะ ไหนจะใบไม้ที่ร่วงลงมาแล้วยังไม่ได้กวาด หรือเศษซากขยะที่ปลิวมาในรั้วบ้าน เรียกว่าคงต้องจัดการชุดใหญ่เพื่อกำจัดบ้านที่เคยร้างอยู่ 3-4 วัน ให้กลับมาสะอาดปิ๊งไร้ฝุ่นเหมือนเดิม ดังนั้นถ้าไม่อยากให้การทำความสะอาดถูกผัดวันประกันพรุ่ง รีบซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาดมารอไว้เลย กลับมาจะได้ลงมือทันที

          และนี่คือข้อแนะนำสำหรับคนที่กำลังจะไปเที่ยวสงกรานต์พักผ่อนกันแบบยาว ๆ ลองทำตามนี้ไม่ต้องทุกข้อก็ได้ เพราะแต่ละข้ออาจจะไม่ได้เหมาะกันทุกบ้าน แต่ข้อไหนตรงกับเราอย่างน้อยถ้าทำไว้ก็อุ่นใจกว่านะจ๊ะ

แหล่งที่มา  http://home.kapook.com/view114443.html
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Wednesday, March 18, 2015

9 ข้อดีของกาแฟ ดื่มอย่างเหมาะสมสุขภาพก็แจ่มใส



          ใคร ๆ ก็บอกว่ากาแฟมีคาเฟอีน สารที่หากได้รับในปริมาณที่เกินพิกัดก็อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ แต่คอกาแฟอย่าเพิ่งหมดกำลังใจเลยค่ะ เพราะมีผลวิจัยที่ เว็บไซต์ livestrong.com เขาได้นำมาเผยให้รู้ ก็น่าจะช่วยให้คนติดกาแฟได้ยิ้มแก้มแทบปริกันบ้าง เพราะ 9 ข้อต่อไปนี้ จะเป็นข้อดีของกาแฟ ที่ถ้ากินในปริมาณที่เหมาะสม หากจำกัดครีมเทียม นม และน้ำตาลอย่างเหมาะเจาะ ก็สร้างประโยชน์ดี ๆ ให้ร่างกายเราไม่เบาเลยเชียวนะ

1. ลดความเสี่ยงเป็นโรคนิ่ว

          ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ปี 2002 เผยว่า ผู้หญิงที่ดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีลดลงประมาณ 25% เช่นเดียวกับผลการวิจัยก่อนหน้านี้ที่บอกว่า ผู้ชายที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้ด้วย

2. กาแฟช่วยลดความเครียด
          
          เชื่อว่าหลายคนแอบเห็นด้วยกับผลวิจัยนี้ เพราะเมื่อรู้สึกเครียด ๆ เหนื่อย ๆ ทีไร ได้จิบกาแฟสักหน่อยก็จะรู้สึกดีขึ้นใช่ไหมคะ ซึ่งคราวนี้เราการันตีด้วยผลการวิจัยเพิ่มเติมอีกด้วยว่า คนที่ดื่มกาแฟประมาณ 2-3 แก้วต่อวัน จะลดความเครียดได้ประมาณ 15 % แต่หากดื่มกาแฟ 4 แก้วต่อวัน จะสามารถลดความเครียดได้ถึง 20% เลยทีเดียวจ้า

3. ช่วยกระตุ้นความจำ
           
          ผลการวิจัยจากภาครังสีวิทยาของอเมริกาเหนือกล่าวว่า หากดื่มกาแฟ 2 แก้วต่อวัน จะสามารถพัฒนาความจำ และปฏิกิริยาตอบโต้ได้ดีขึ้น สอดคล้องกับการวิจัยของอีกสถาบันหนึ่งที่บอกว่า ผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป หากดื่มกาแฟมากกว่า 3 แก้วต่อวัน จะมีความจำที่ดีขึ้นกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟ หรือดื่มกาแฟน้อยกว่านี้
           
          ส่วนมหาวิทยาลัยเซาท์ฟรอริด้าก็เผยว่า คนอายุล่วงเข้าวัยกลางคน ควรดื่มกาแฟประมาณ 4-5 แก้วต่อวัน เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมน GCSF สารที่ช่วยลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ด้วยจ้า

4. รอดจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2
           
          จากการศึกษาของภาคการเกษตรและเคมีอาหารของสหรัฐอเมริกา ทำให้ทราบว่า นักดื่มกาแฟตัวยง จะมีโอกาสรอดพ้นจากโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ประมาณ 50% เนื่องจากคาเฟอีนมีคุณสมบัติช่วยยับยั้ง hIAPP และโพลีเปปไทด์ ตัวการก่อให้เกิดโปรตีนผิดปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 นั่นเอง

5. ลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง
           
          มีผลการวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันว่า การดื่มกาแฟวันละ 2-5 แก้วต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงเกิดเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งตับได้ด้วย โดยประสิทธิภาพของคาเฟอีน จะช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์ผิดปกติ และกำจัดสารพิษที่ร่างกายได้รับได้ในระดับหนึ่ง

6. กระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ
           
          มีผลการวิจัยหลายชิ้นที่บอกว่า คาเฟอีนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเมตาบอลิซึม และอาจจะทำให้น้ำหนักคุณลดลงได้ แต่ล่าสุดผลการวิจัยเมื่อปี 2006 เพิ่งจะได้ข้อสรุปว่า คาเฟอีนในเมล็ดกาแฟสดคั่วบด มีผลกับการลดน้ำหนักในผู้หญิงได้จริง และสามารถลดน้ำหนักเฉลี่ยได้ 7.7 กิโลกรัมภายใน 22 สัปดาห์เลยทีเดียวจ้า

7. ลดความเสี่ยงเป็นโรคพาคินสัน
           
          สถาบันการแพทย์อเมริกันได้ทำการวิจัยและพบว่า คาเฟอีนในกาแฟมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงเป็นโรคพาคินสัน โดยผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 2-3 แก้วเป็นประจำทุกวัน จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคพาคินสันได้ถึง 25% เลยนะจ๊ะ

8. ปลุกความตื่นตัวได้ในทันที

          คาเฟอีนมีคุณสมบัติไม่ต่างจากสารกระตุ้นดี ๆ ชนิดหนึ่ง ที่สามารถปลุกความตื่นตัวให้กับร่างกายที่อ่อนล้า หรืออ่อนเพลียได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ยืนยันด้วยการทดลองกับนักกีฬากลุ่มหนึ่ง ซึ่งได้ดื่มกาแฟระหว่างที่ฝึกซ้อม และพบว่า นักกีฬากลุ่มที่ดื่มกาแฟจะสามารถฝึกซ้อมกีฬาได้นานขึ้น เรียกได้ว่ามีความอึดมากกว่าเดิมนั่นเอง โดยความคึกคักที่เกิดขึ้นจะมีระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

9. ลดโอกาสเป็นโรคเกาต์
           
          สำหรับคนที่กลัวตัวเองจะเสี่ยงเป็นโรคเกาต์ โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป แนะนำให้ดื่มกาแฟประมาณ 3-6 แก้วต่อวันอย่างต่อเนื่อง เพราะผลการวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งหนึ่งยืนยันแล้วว่า คาเฟอีนมีส่วนช่วยบรรเทาการอักเสบของข้อ เนื่องมาจากกรดยูริกที่เกินขนาดอย่างได้ผล และคนที่ดื่มกาแฟ 6 แก้วต่อวัน ก็จะช่วยลดความเสี่ยงเป็นโรคเกาต์ได้ถึง 60% เลยล่ะค่ะ
 
          คอกาแฟที่กลัวผลกระทบจากคาเฟอีนได้รู้อย่างนี้แล้วคงสบายใจขึ้นใช่ไหมคะ แต่อย่างไรก็ดี เพื่อสุขภาพ ก็ควรดื่มกาแฟที่มีส่วนผสมของน้ำตาล นม และครีมเทียมน้อย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ และที่สำคัญอย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการด้วยนะจ๊ะ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต