Sunday, August 28, 2016

6 ประโยชน์ของวิตามินพี (Bioflavonoids)...รู้จักแล้ว ต้องหาทานด่วน!!






วิตามินพี (Vitamin P) เป็นสารชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Bioflavonoids หรือที่เราเรียกกันในภาษาไทยก็คือ ไบโอฟลาโวนอยด์...เรา ได้รู้จักชื่อกันแล้ว แล้วคุณรู้จักประโยชน์ของเจ้าวิตามินพีนี้หรือยังล่ะ? หลายคนจะต้องไม่รู้จักเจ้าวิตามินพี (Bioflavonoids) ตัวนี้แน่ๆ ถ้าอย่างนั้น อย่ารอช้าสิ เรามาดูกันเลยว่าวิตามินพี ...ช่วยอะไร มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง?


6 ข้อ ประโยชน์ของวิตามินพี (Bioflavonoids) ... ช่วยอะไร?
 
1.วิตามินพีป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน เพราะวิตามินพีเข้าไปช่วยให้เส้นเลือดของร่างกายมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้อาการเลือดออกง่ายนั้นหายไป

2.วิตามินพีช่วยเสริมภูมิต้านทานที่ดีขึ้น เพราะวิตามินพีทำงานเช่นเดียวกับวิตามินซีคือเป็นตัวช่วยให้ร่างกายมีภูมิ ต้านทานดียิ่งกว่าเดิม ช่วยไม่ให้เป็นหวัด ป่วยไข้ง่าย หรือหากเป็นก็ช่วยให้อาการหายไวขึ้น

3.วิตามินพีลดอาการบวมของร่างกายได้ คนที่ได้รับการกระทบกระเทียนบนร่างกาย หรือแมลงสัตว์กัดต่อยแล้วเกิดอาการบวม จากการที่เส้นเลือดขยายตัว แต่หากได้รับวิตามินพีเพิ่มสักหน่อย ก็จะช่วยให้ผนังเส้นเลือดหนาขึ้น อาการบวมลดน้อยลง

4.วิตามินพีช่วยชะลอผิวให้อ่อนเยาว์ และกระจ่างใส อย่างที่เรารู้ดีว่าวิตามินซีนั้นมีฤทธิ์เป็นกรด แล้วยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ให้กับร่างกาย ทำให้ผิวของเราดูกระจ่างใส ขาวขึ้น ซึ่งเจ้าวิตามินพีก็จะทำงานคล้ายๆ กับวิตามินซีนั่นเอง

5.วิตามินพีมีสรรพคุณช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซีให้ดีขึ้น เรียกว่าทานวิตามินพี (Bioflavonoids) แต่ช่วยสนับสนุนวิตามินซีนั่นเอง

6.วิตามินพีช่วยการดูดซึมสารอาหารให้ดีขึ้น โดยวิตามินพีเข้าไปช่วยให้กระเพาะอาหาร และลำไส้มีการดูดซึมสารอาหารได้ง่าย และดีกว่าเดิม จึงได้รับสารอาหารได้มากขึ้น


อาหารที่มีวิตามินพี (Biofavonoids) สูง

เราสามารถทานวิตามินพีได้จากผลไม้เป็นส่วนใหญ่ และที่จำง่ายๆ คือ วิตามินพี (Bioflavonoids) มีอยู่ในผลไม้ประเภทเดียวกับวิตามินซีอีกด้วย อาหารที่มีวิตามินพี คือ มะนาว ส้ม ส้มโอ ลูกพลับ ฝรั่ง องุ่น มะขามป้อม แอพริคอท พริกหวาน มะเขือเทศ มะละกอ บรอคเคอลี่ แคนตาลูป ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ รวมถึงผักผลไม้ที่มีรสชาติฝาดเปรี้ยวอีกด้วย


ขาดวิตามินพี (Biofavonoids) จะเป็นอย่างไร 


อาการของคนที่ขาดวิตามินพี (Bioflavonoids) นั้นจะมีอาการเหมือนคนที่ขาดวิตามินซี นั่นคือ อาการฟกช้ำดำเขียวได้ง่าย เพราะผนังหลอดเลือดจะไม่แข็งแรง ทำให้เกิดอาการบวม เป็นรอยจ้ำสีม่วงหรือสีเขียว และช้ำของเส้นเลือดได้ง่ายกว่าคนอื่น รวมถึงยังทำให้เลือดออกตามไรฟันได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ เพราะเส้นเลือดฝอยแตกง่าย และทำให้มีภูมิต้านทานที่อ่อนแอกว่าคนทั่วไป


ควรทานวิตามินพี (Bioflavonoids) อย่างไร


ปริมาณวิตามินพี (Bioflavonoids) ที่คุณควรได้รับนั้นจะอยู่ที่ 300 - 500 มิลลิกรัม ต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่เหมาะสมที่ร่างกายควรจะได้รับ สำหรับคนที่ทานวิตามินพีมากกว่าปกตินั้น ยังไม่มีผลข้างเคียงหรือว่าผลเสียใดๆ จากการรับประทานวิตามินพีเกินขนาด ซึ่งคุณสามารถทานวิตามินพีได้ตามแหล่งอาหารต่างๆ ในชีวิตประจำวันของคุณได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาวิตามินพีแคปซูลพวกอาหารเสริมใดๆ


ใครควรทานวิตามินพี (Bioflavonoids) ให้มาก


สำหรับคนที่มีอาการเลือดออกตามไรฟัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่แปรงฟันหรือว่าเป็นช่วงเคี้ยวอาหารนั้น ล้วนมีความเสี่ยงที่จะขาดวิตามินพี (Bioflavonoids)ได้ เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องทานวิตามินพีให้มาก ส่วนในกลุ่มคนวัยทองเองก็ควรจะทานวิตามินพีให้มากเช่นเดียวกัน เพราะวิตามินพีช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ และลดอาการวัยทองให้น้อยลงได้ รวมถึงคนที่มีรอยฟกช้ำดำเขียวได้ง่ายกว่าคนอื่น มีผิวบอบบางก็ควรทานวิตามินพีให้เยอะๆ เนื่องจากวิตามินพีช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับหลอดเลือดนั่นเอง


เราได้เห็นถึงสรรพคุณและประโยชน์ของวิตามินพี (Bioflavonoids) ไปแล้ว ว่าสำคัญต่อร่างกายอย่างไร ดังนั้นถ้าอยากมีสุขภาพดี แข็งแรง ผิวาวย อย่าลืมทานวิตามินพี (Bioflavonoids) ด้วยนะค่ะ


เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/543528248754394660/

No comments:

Post a Comment