เคล็ดลับลดน้ำหนักระยะยาว

         หากคุณกำลังวางแผนลดน้ำหนักอยู่ล่ะก็ เรามีวิธีเจ๋ง ๆ โดยไม่ต้องพึ่งยา หรืออดอาหารจนหิวตาลายมาฝาก แถมในระยะยาวยังไม่กลับมาอ้วนด้วยค่ะ
 
ตั้งใจจริง

           ไม่ใช่แค่กระตือรือร้นจะทำ แต่ต้องพร้อมจริง ๆ และมีความตั้งใจทำในระยะยาว ว่าจะกินอะไร อย่างไร ออกกำลังกายด้วยวิธีไหน มีทัศนคติต่อตัวเองอย่างไร และคุณคิดเกี่ยวกับอาหารต่า งๆ โดยเฉพาะอาหารจานโปรดอย่างไร

เชื่อมั่น

           ไม่มีใครสามารถลดน้ำหนักได้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มั่นใจและเชื่อในสิ่งที่ทำ เพราะฉะนั้น ซื่อสัตย์ต่อความคิด การกระทำของตัวเอง อดทน และไม่ย่อท้อไปเสียก่อนที่จะบรรลุเป้าหมายนะคะ

หาตัวช่วย

           แรงสนับสนุนจากคนในครอบครัว เพื่อนฝูงรอบข้าง กลุ่มที่ให้คำปรึกษา จะช่วยให้ความตั้งใจในการลดน้ำหนักสำเร็จได้ค่ะ เพราะการได้รับกำลังใจและคำแนะนำที่ดีจะกระตุ้นให้คุณมีมานะมากขึ้นด้วย

           ที่สำคัญต้องชนะใจตัวเองให้ได้ก่อน แล้วทุกอย่างก็จะสำเร็จ จริง ๆ นะ

โดย: แอมแปร์

แหล่งที่มา  รักลูก, http://health.kapook.com/view36760.html

5 สิ่งที่พ่อแม่ควรทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเสียชีวิต

         ภัยใกล้ตัวลูกเกิดขึ้นได้เสมอหากคุณพ่อคุณแม่ไม่อยากเสียใจในภายหลัง วันนี้กระปุกดอทคอมมีเกร็ดความรู้ 5 เรื่องต่อไปนี้ที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามเรื่องความปลอดภัยของลูก ๆ มาฝากกัน ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างที่ไม่ควรประมาทไปดูจากนิตยสาร Momypedia กันเลย

          จริง ๆ ในช่วงแรกของชีวิตลูก มีสารพัดสิ่งที่พ่อแม่ต้องดูแลลูกเพื่อความปลอดภัยของลูก แต่วันนี้เรามี 5 เรื่องที่พ่อแม่ควรทำ และเรียนรู้ไว้ในเบื้องต้นเพื่อความปลอดภัยของลูกมาฝากกันค่ะ

1. สอนลูกว่ายน้ำให้เป็น

           ทราบไหมคะว่า การจมน้ำเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเสียชีวิตในเด็กเลยค่ะ ดังนั้นการสอนให้ลูกว่ายน้ำได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีกับตัวลูกๆ ค่ะ ปัจจุบันหลายครอบครัวพาลูกไปเรียนว่ายน้ำตั้งแต่แบเบาะเลยค่ะ ในต่างประเทศจะฝึกให้ทารกรู้จักการลอยตัวในน้ำ และช่วยประคองตัวในน้ำ เผื่อเกิดอุบัติเหตุทางน้ำทารกก็สามารถประคองตัวเอง หรือว่ายเข้าฝั่งได้เองค่ะ

 
2. เรียนรู้การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน การทำ CPR หรือ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

           การเรียนรู้การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรเรียนรู้ไว้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการทำ CPR หรือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เช่นการผายปอด นวดหัวใจ หรือปฐมพยาบาลเมื่อมีสิ่งของอุดตันหลอดอาหาร ฯลฯ ความซุกซนของเด็ก ๆ อาจจะทำให้เกิดเหตุไม่คาดคิดกับเด็ก ๆ ได้ ดังนั้นเมื่อเป็นพ่อแม่แล้ว ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และเรียนรู้ ฝึกฝน การช่วยชีวิต การปฐมพยาบาลเบื้องต้นไว้เสมอค่ะ

  

3. ให้ลูกนั่งคาร์ซีทเมื่อขึ้นรถ

           สาเหตุรอง ๆ ลงมาของการเสียชีวิตในเด็กก็คืออุบัติเหตุรถยนต์ค่ะ ดังนั้นการฝึกให้ลูกใช้คาร์ซีทตั้งแต่แรกเกิดเป็นสิ่งสำคัญ อย่าอะลุ่มอล่วยให้ลูกเพราะลูกร้องไห้งอแง หรือเพียงแค่ระยะทางสั้น ๆ เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วลูกเป็นอันตรายขึ้นมา คนที่เสียใจที่สุดก็คือตัวพ่อแม่เองค่ะ ดังนั้นเพื่อลูกต้องเคร่งครัดไว้นะคะ

 
4. ไม่ทิ้งลูกไว้ในรถคนเดียว / ถอยรถ ขับรถอย่างระวัง

           มีเหตุการณ์จากความประมาทบ่อยครั้งที่พ่อแม่ออกไปนอกรถแล้วทิ้งลูกไว้ในรถ จนลูกเสียชีวิตเพราะความร้อน หรือเพราะลูกล๊อครถขังตัวเองไว้ในรถ ดังนั้นทุกครั้งที่ออกนอกรถแล้วไม่มีผู้ใหญ่ดูลูกต้องพาลูกไปด้วยค่ะ ถึงแม้จะระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม รวมทั้งการขับรถ ถอยรถโดยเฉพาะที่บ้านต้องดูให้แน่ใจว่าไม่มีลูกอยู่บริเวณรอบ ๆ รถ

5. พาลูกเข้ารับวัคซีนตามกำหนด

           ตรวจสอบวัคซีนที่จำเป็น และพาลูกเข้ารับการฉีดวัคซีนจำเป็นตามกำหนด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่จำเป็นให้ลูกค่ะ รวมทั้งเป็นการตรวจเช็คสุขภาพ พัฒนาการของลูกน้อยกับคุณหมอด้วยว่าเป็นไปอย่างเหมาะสม หรือมีความผิดปกติหรือไม่ ถ้าหากมีข้อสงสัยสามารถซักถามกับคุณหมอในเวลาที่ไปรับการฉีดวัคซีนได้ค่ะ

 
           นอกจาก 5 ข้อต้องทำข้างต้นแล้ว พ่อแม่ต้องระมัดระวัง และตระหนักไว้เสมอค่ะ โดยเฉพาะครอบครัวที่มีลูกเล็ก ๆ ว่าความประมาทเพียงนิดเดียวทำให้ลูกน้อยตกอยู่ในอันตรายได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อนเสมอ อย่าให้ถึงวันที่สายไป และไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ทันค่ะ

แหล่งที่มา  MomyPedia, http://baby.kapook.com

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

กระดูกลูกแข็งแรง ด้วยแดด และการเล่น

         มาเสริมสร้างกระดูกลูกน้อยให้เคลื่อนไหวมากขึ้นกันดีกว่าค่ะคุณพ่อคุณแม่ เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมมีเคล็ดไม่ลับมาแนะนำให้ลูกน้อยได้เคลื่อนไหวร่าง กายและทำกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกด้วยการเล่น มาฝากกัน ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูก ๆ อยู่ในโลกจินตการหน้อจอมากเกินไป มาดูเคล็ดไม่ลับจากนิตยสาร M&C แม่และเด็ก กันเลยดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง ...

         ยุคนี้ภัยนอกบ้านมากมายเหลือเกิน พ่อแม่หลายคนจึงพึงพอใจที่จะเห็นลูกอยู่บ้าน อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ นั่งดูโทรทัศน์ มากกว่าให้เขาไปวิ่งเล่นนอกบ้าน ทำกิจกรรมต่าง ๆ กับเพื่อน ๆ แต่นั่นอาจเป็นการทำร้ายสุขภาพเค้าทางอ้อม

ยิ่งเล่น ยิ่งดีต่อกระดูก

         พ่อแม่ควรเข้าใจธรรมชาติของเด็กวัยนี้ มักจะวิ่งซน อยากรู้อยากเห็น เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี ทำให้ร่างกายได้มีการเคลื่อนไหวกระดูกจะได้รับแรงกระทำตลอดเวลาที่มีการ เคลื่อนไหว แรงที่กระทำกับกระดูกเป็นสิ่งกระตุ้นที่สำคัญที่สุดอันหนึ่ง ที่ทำให้กระดูกมีการสร้าง ซ่อมแซม และสะสมแคลเซียมเพิ่มในเนื้อกระดูก กระดูกที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว กระดูกอันนั้นจะอ่อนแอ กระดูกบางลง ดังนั้น ยิ่งเขาออกกำลังกายมากและบ่อย จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเนื้อกระดูก

เคลื่อนไหวห่างไกลกระดูกเสื่อม

         พ่อแม่ที่ปล่อยให้ลูกนั่งเล่นเกมส์ ไม่ว่าจะเกมคอมพิวเตอร์ เกมในมือถือ แท็บเล็ต หรือดูโทรทัศน์เพียงอย่างเดียว สิ่งนี้เป็นปัญหาใหญ่ของเด็กยุคนี้ที่ติดอยู่กับโลกจินตนาการเสมือนจริง ร่างกายไม่ต้องเคลื่อนไหวเอง ใช้แต่เพียงสมอง สายตามองจอคอมพิวเตอร์ นำมาซึ่งผลเสียต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องการเรียนรู้ สมาธิ และสุขภาพ

         การไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย นอกจากกระดูกจะไม่แข็งแรงเท่าที่ควรจะเป็นแล้ว โครงสร้างกระดูก กล้ามเนื้อและข้อต่อยังเสื่อมง่ายกว่าที่ควรจะเป็น การกินอาหารอย่างพอเพียงแต่อย่างเดียวไม่สามารถทำให้กระดูกหนาตัวและแข็งแรง ได้ ต้องอาศัยแรงจากการเคลื่อนไหว กระตุ้นเนื้อกระดูกให้แข็งแรงขึ้น และส่งเสริมให้การเจริญเติบโตดีขึ้นด้วย

 
แดดอ่อน ๆ ช่วยลูกแข็งแรง

         แสงแดดเป็นกลไกสำคัญอันหนึ่งช่วยกระตุ้นให้ผิวหนังของเราสร้างวิตามินดี และวิตามินดี จึงจะไปช่วยดูดซึมแคลเซียมที่ลำไส้ ช่วยสะสมแคลเซียมในเนื้อกระดูก อย่างไรก็ตาม แสงแดดที่ร้อนจัดเกินไป สามารถสร้างโทษให้กับผิวหนังของเราได้เช่นกัน ช่วงเวลาที่เหมาะในการสัมผัสแสงแดด คือช่วงเวลาเช้า แสงแดดอ่อน ๆ หรือก่อนพระอาทิตย์ตกดิน จึงควรพยายามหากิจกรรมกลางแจ้งให้ลูกได้ร่วมกิจกรรมตามวัย นอกจากจะได้แสงแดด ได้วิตามินดีแล้ว ยังได้การเคลื่อนไหวกระตุ้นการสร้างเสริมกระดูกให้แข็งแรง

ชวนลูกทำกิจกรรม

         การจัดระเบียบ ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรม เพื่อให้ร่างกายมีการเคลื่อนไหว จึงเป็นหนึ่งในภาระที่คุณพ่อคุณแม่ยุคปัจจุบันควรคิดถึงและให้ความสำคัญ เช่น ชวนเขาโยนบอล เตะฟุตบอล วิ่ง ออกกำลังกาย เล่นกีฬา รวมทั้งการช่วยงานบ้าน เช่น จัดบ้าน เก็บข้าวของ กวาดถูบ้าน ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ ให้อาหารสัตว์ เป็นต้น

  

แหล่งที่มา  http://baby.kapook.com

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

ระวัง ผดร้อน ในเด็กเล็ก

        เพราะผิวลูกน้อยยังบอบบาง อาการผดผื่นในหน้าร้อนจึงเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลใจไป วันนี้กระปุกดอทคอมมีเคล็ดลับในการดูแลผิวลูกน้อยและวิธีป้องกันผดผื่นใน ช่วงหน้าร้อนมาฝากกัน พร้อมแล้วไปดูแลผิวลูกน้อยให้ห่างไกลเจ้าผดร้อนกับนิตยสาร Mother & Care กันเลยดีกว่าค่ะ ...

          

         ปัญหาหนึ่งที่พบเจอกับประจำสำหรับเด็กไทยก็คือ ผดร้อน ก็อากาศร้อน การเกิดผดร้อนขึ้นกับเด็กเล็ก ๆ ก็เกิดขึ้นได้สูงคราวนี้เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ต้องรู้แล้วล่ะค่ะว่าจะ ดูแลผิวพรรณของลูกต่ออย่างไรดี

ทำไม ? ผดผื่นจึงเกิดกับเด็กง่ายจัง

         เคยสงสัยไหมคะ ว่าทำไมผู้ใหญ่ก็ร้อนเหมือนกัน แต่ไม่เกิดผด หรือผื่นคัน เหมือนเด็ก ๆ เลย นั่นก็เพราะว่า

         เซลล์ผิวหนังของเด็กยังไม่แข็งแรง ความยืดหยุ่นยังไม่ดีพอ ถ้ามีการเสียดสีจึงเกิดผื่นขึ้นง่าย ๆ

         ต่อมเหงื่อของเด็กยังทำงานไม่ดีเต็มที่ แถมยังต้องขับเหงื่อออกมาอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ต่อมเหงื่ออุดตัน เกิดผดขึ้นได้ง่าย ซึ่งผดผื่นที่แสดงออกมาให้เห็นนั้น มีหลายชนิดขึ้นอยู่กับความลึกของการอุดตัน เกิดผดขึ้นได้ง่าย ซึ่งผดผื่นที่แสดงออกมาให้เห็นนั้น มีหลายชนิดขึ้นอยู่กับความลึกของการอุดตัน เช่น ถ้าอุดตันบริเวณผิวหนังชั้นตื้น ๆ ผดก็จะเป็นเม็ดใส ๆ แต่ถ้าระดับลึกลงก็จะเป็นรอยแดง และสีขุ่นตามลำดับ ยกเว้นสาเหตุที่เกิดจากเชื้อหรือโรคผิวหนังบางชนิด

จะว่าไปแล้ว การป้องกันผดร้อนของเด็กนั้น ค่อนข้างยาก ต้องหมั่นดูแล ดังนี้

         อาบน้ำด้วยอุณหภูมิห้อง ไม่ควรใช้น้ำอุ่นมากเกินไปอาบ เพราะจะทำให้ผิวแห้ง

         เลือกใช้สบู่ หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับเด็กโดยเฉพาะ และเลือกที่มีค่า pH เป็นกลาง ต้องคอยสังเกตว่าหลังอาบลูกผิวแห้งหรือเกิดอาการแพ้หรือไม่

         ถ้าอากาศร้อนมาก พาลูกอาบน้ำหรือเช็ดตัวตามความเหมาะสม

         เลือกเสื้อผ้าที่มีการระบายอากาศได้ดี

         จัดบ้านให้โปร่ง โล่ง หมั่นเช็ดฝุ่นอยู่เสมอ

         เมื่ออยู่บ้านควรงดใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป

         ถ้ามีผดร้อนขึ้นเยอะมาก มีอาการแสบหรือคัน ควรปรึกษาคุณหมอไม่ควรซื้อยามาทาเอง เพราะยาทาบางตัวอาจมีสเตียรอยด์ ซึ่งถ้าใช้ในปริมาณที่ไม่เหมาะสม อาจเป็นอันตราย

แหล่งที่มา  Mother & Care, http://baby.kapook.com

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต