Sunday, August 30, 2015

10 อาหาร ตัวการทำท้องเสีย !





        อาการท้องเสียเป็นอะไรที่ทรมานมาก ๆ เลยใช่ไหมคะ ยิ่งถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สะดวกจะเข้าห้องน้ำด้วยแล้ว ก็แทบจะกรีดร้องอย่างเสียสติกันเลยทีเดียว ดังนั้น ทุกครั้งที่จะรับประทานอาหาร เราก็จะเลือกอาหารที่ดูสะอาดสะอ้าน ปลอดภัยจากเชื้อโรคกันดีอยู่แล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ขนาดเลือกกินอาหารที่สะอาดและปลอดภัยแล้ว ก็ยังไม่วายเกิดอาหารท้องเดินกันให้วุ่นอีก แต่จะเป็นไปได้ไหมว่า ที่เรามีปัญหาระบบทางเดินอาหารกันอยู่นี้ อาจจะเป็นเพราะอาหาร 10 อย่างต่อไปนี้ก็ได้

 
1. ของทอด

          ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าอาหารประเภททอดนี่ล่ะ ที่อาจจะเป็นสาเหตุให้เราท้องเสียได้ง่าย ๆ เพราะในกระบวนการทอด จะทำให้อาหารมีน้ำมัน ทั้งน้ำมันพืชที่ทอดและน้ำมันจากเนื้อสัตว์ที่ออกมา ยิ่งถ้าเป็นอาหารทอดที่มีออพชั่นเสริมอย่าง ชุบแป้งทอด ราดครีมซอส หรือทอดเนย ก็จะยิ่งเสี่ยงมากขึ้นไปอีก เพราะทั้งแป้ง เกล็ดขนมปัง ครีมซอส และเนย ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุดิบที่ผ่านการหมัก จึงอาจเป็นอันตรายต่อลำไส้ และทำให้เกิดท้องเสียได้ โดยเฉพาะกับอาหารที่ทอดไม่สุกดี ทางที่ดีเลือกกินอาหารประเภทอบ หรือย่างดีกว่า ไม่อ้วนด้วยจ้า
 

2. ผลไม้รสเปรี้ยว

          ในผลไม้รสเปรี้ยวจะมีไฟเบอร์สูง ซึ่งอาจทำให้ลำไส้บางคนเกิดการระคายเคืองจนท้องเสียได้ ดังนั้นหากมีอาการคลื่นไส้ ก็ไม่แนะนำให้กินผลไม้รสเปรี้ยวอย่าง ส้ม เกรปฟรุต หรือผลไม้รสเปรี้ยวชนิดอื่นนะคะ มันอาจจะช่วยลดอาการคลื่นไส้ก็จริง แต่คุณจะได้วิ่งเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่นแทนนะจ๊ะ


3. สารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล

          ซอบิทอล (sorbitol) หรือสารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล มักจะพบมากในหมากฝรั่งชนิดไม่มีน้ำตาล น้ำอัดลมบางชนิด และขนมที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลทุกชนิด ซึ่งสารตัวนี้นี่แหละที่เป็นตัวการทำให้เราท้องเสีย และเป็นตะคริว และถ้าร่างกายได้รับซอบิทอล (sorbitol) เกิน 50 กรัมต่อวัน ก็จะเป็นอันตรายต่อลำไส้ด้วย เพราะร่างกายเราไม่สามารถย่อยสารให้ความหวานแทนน้ำตาลได้นั่นเอง
 

4. อาหารที่มีไฟเบอร์มาก

          สงสัยใช่ไหมล่ะว่าอาหารที่มีไฟเบอร์มากและมากประโยชน์อย่างผักผลไม้ ทำไมถึงกลายเป็นอาหารที่จะทำให้เรามีปัญหาระบบทางเดินอาหารไปได้ นั่นก็เพราะอาหารที่มีไฟเบอร์สูง แม้จะดีต่อระบบการย่อยอาหารก็จริง แต่หากกินเข้าไปในปริมาณมาก ๆ จะรบกวนการทำงานของลำไส้ ทำให้ลำไส้ปรับตัวไม่ทัน จึงเกิดเป็นแก๊สและทำให้ท้องอืดเฟ้อได้ในที่สุด
 

5. ถั่ว

          ในถั่วมีน้ำตาลที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ ดังนั้นหากกินเข้าไป ร่างกายก็จะพยายามย่อยน้ำตาลชนิดนี้ด้วยการหยุดหลั่งเอนไซม์ และให้แบคทีเรียในลำไส้ทำหน้าที่ย่อยแทน ก่อให้เกิดแก๊สในลำไส้ ทำให้รู้สึกจุกเสียด แน่นเฟ้อ และเป็นตะคริวได้ แต่ถ้าจะกินถั่ว ก็ควรแช่เมล็ดถั่วในน้ำสะอาดอย่างน้อย 4 ชั่วโมง และเทน้ำทิ้งเพื่อล้างน้ำตาลชนิดที่ร่างกายย่อยไม่ได้นี้ออกไปก่อน


6. กะหล่ำ และผักตระกูลผักกาด

          ผักกะหล่ำ บรอกโคลี และผักในตระกูลผักกาดทุกชนิด ก็มีน้ำตาลชนิดที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้เองเช่นกัน และในฐานะที่เป็นผักและมีไฟเบอร์สูง กระบวนการย่อยน้ำตาลชนิดนี้ของร่างกายก็จะยิ่งปรวนแปรมากขึ้นไปอีก หากกินปริมาณมากเกินไป ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้ลำไส้ทำงานหนัก และเกิดอาการจุกเสียดแน่นเฟ้อได้
 

7. ฟรุกโตส

          ในบางคนที่มีปัญหาเรื่องการย่อยอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็อาจจะมีปัญหาในการย่อยฟรุกโตส (Fructose) ได้ และเสี่ยงที่จะเกิดอาหารท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่น ปัญหาลำไส้อื่น ๆ และตะคริวได้ง่ายกว่าคนทั่วไป อาหารที่มีฟรุกโตสก็ได้แก่ น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ ลูกอม และขนมที่มีความหวานทุกชนิด
 

8. อาหารรสจัด

          บางคนเคยมีอาการอาหารไม่ย่อย และแสบร้อนกลางอกหลังจากรับประทานอาหารที่มีรสจัดมาก ๆ โดยเฉพาะหากทานเป็นอาหารมื้อใหญ่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้อธิบายว่า อาหารรสจัดที่มีพริก พริกไทย เป็นส่วนประกอบ จะมีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า แคปไซซิน (capsaicin) รวมอยู่ด้วย และเจ้าสารชนิดนี้แหละ ที่เป็นสาเหตุของอาการแสบร้อนกลางอก และอาหารไม่ย่อย


9. ผลิตภัณฑ์จากนม

          สำหรับผู้ที่แพ้นมวัว หรือร่างกายไม่ย่อยนม หากกินนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมเข้าไปก็จะเกิดอาการท้องเสีย ท้องอืด แน่นเฟ้อ และมีปัญหาระบบย่อยอาหารอื่น ๆ เพราะเมื่อร่างกายไม่ยอมย่อยเลคโตสจากนม ร่างกายก็จะเกิดปฏิกิริยาบางอย่าง เพื่อที่จะพยายามย่อยเลคโตสให้ได้ จึงเป็นการฝืนกระบวนการของร่างกาย ทำให้ระบบการย่อยอาหารแปรปรวนนั่นเอง ดังนั้นหากรู้ตัวว่าแพ้นมวัว ก็พยายามเลี่ยงหรือลดอาหารเหล่านี้จะดีกว่า หรืออาจจะต้องทานอาหารเสริมที่มีเอนไซม์ร่วมด้วย เพื่อให้ช่วยย่อยเลคโตสนะคะ
 

10. สะระแหน่

          สะระเหน่ช่วยให้ท้องรู้สึกเย็นและสดชื่น แต่ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดกรดไหลย้อน และอาการแสบร้อนกลางอกได้ด้วยเช่นกัน รวมทั้งช็อกโกแลตและกาแฟด้วยนะคะ ดังนั้นหากไม่อยากทรมานเพราะอาการเหล่านี้ ก็พยายามกินในปริมาณที่พอเหมาะ หรือเลี่ยงไปทานอาหารอย่างอื่นดีกว่าจ้า
 

          อาหารบางอย่างก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราท้องเสีย หรือมีปัญหาระบบทางเดินอาหารเลยนะคะ แต่อย่างไรก็ตาม อาหารที่สร้างปัญหานี้ให้เรา แต่ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายในแง่อื่น เราก็ควรกินในปริมาณที่พอดี และหากเกิดอาการท้องเสีย ก็พยายามดื่มน้ำเยอะ ๆ โดยเฉพาะน้ำเกลือแร่ เพื่อทดแทนเกลือแร่ที่ร่างกายได้สูญเสียไป นอกจากนี้เพื่อป้องกันอาการท้องเสีย แนะนำให้กินอาหารที่มีไฟเบอร์จากข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี และธัญพืช ที่ช่วยป้องกันอาการท้องเสียได้ด้วยค่ะ

No comments:

Post a Comment