วิธีเลี้ยงลูกให้มีความสุข ด้วย 6 วิธีง่าย ๆ เริ่มได้จากคุณพ่อคุณแม่
ที่จะช่วยให้เขาเติบโตเป็นคนดีที่มีความสุขได้ง่าย ๆ
คุณพ่อคุณแม่ทุกคนล้วนอยากให้ลูกของตัวเองเติบโตมาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
เป็นคนเก่งของพ่อแม่และสังคมกันทั้งนั้น แต่ในสังคมปัจจุบันนี้การจะเป็นคนเก่งที่ฉลาดอย่างเดียวคงไม่พอ
ต้องมีความฉลาดทางอารมณ์ ที่ประกอบด้วย ความเก่ง ความดี และความสุข
ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งวิธีเลี้ยงลูกให้เก่ง ดี และมีความสุขนั้นไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง
หรือหาซื้อของแพง ๆ มาให้ลูกแต่อย่างใดเลยค่ะ เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่เข้าใจในตัวลูก
เข้าใจในพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงอายุ และเลี้ยงดูเขาให้เหมาะสมตามวัย
ก็จะทำให้เขาได้เรียนรู้ และเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่เก่ง ดี และมีความสุข
ที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านการเรียน การทำงาน และประสบความสำเร็จในชีวิตได้
ในเมื่อความสุขถือเป็นตัวแปรสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอนำบทความดี ๆ
เกี่ยวกับวิธีเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กที่มีความสุขทั้ง 6 วิธี
ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ในการเลี้ยงลูกได้
เพื่อให้เขาได้มีพัฒนาการทางอารมณ์ที่สามารถต่อยอดไปสู่ความสำเร็จได้ในอนาคต
1. เล่นกับลูกเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์
การเล่น เป็นสิ่งง่าย ๆ ที่ทำให้เด็กมีความสุข ยิ่งถ้าเขาได้มีอิสระ
และได้ใช้จินตนาการในการเล่นแบบต่าง ๆ แล้ว
เขาก็จะมีโอกาสแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการเล่นได้เอง และถ้ามีคุณพ่อคุณแม่มาร่วมเล่นด้วย
ก็จะช่วยพัฒนาความรักความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้การแสดงความรักต่อลูกด้วยการกอด หรือหอมแก้ม ก็จะทำให้ใกล้ชิดกับลูก
และช่วยเพิ่มความอบอุ่นในครอบครัวยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
2. อ่านหนังสือด้วยกันทุกวัน
คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมเจ้าตัวน้อยถึงชอบให้เล่านิทานให้ฟังอยู่บ่อย
ๆ นั่นก็เพราะว่าเด็ก ๆ
ชอบฟังเสียงคุณพ่อคุณแม่อ่านหนังสือหรือเล่านิทานให้ฟังอยู่เสมอ
ซึ่งจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองของลูก
และยังเพิ่มความแน่นแฟ้นในครอบครัวได้ดีอีกด้วย
ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดไม่ใช่การอ่านหนังสือให้ลูกฟังเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่คุณพ่อคุณแม่ควรอ่านหนังสือด้วยกันกับลูก สลับการสอนคำศัพท์
หรือถามตอบเกี่ยวกับเนื้อหาและแสดงความคิดเห็น
นอกจากจะทำให้เขารู้สึกเพลิดเพลินแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังให้รักการอ่านอีกด้วย
3. ให้ลูกสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ และคนรอบข้าง
การเข้าสังคมเป็นพื้นฐานการสร้างบุคลิกภาพที่เหมาะสมของเด็ก
ซึ่งจะช่วยให้เขามีโอกาสได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับคนในสังคม ทั้งเพื่อน ๆ
และคนรอบข้าง รวมถึงได้พัฒนาทักษะด้านอารมณ์ที่ดี ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่ดีในการดำเนินชีวิตในอนาคต
เพราะจะช่วยให้ลูกอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข รู้จักระเบียบวินัย
รู้จักการแบ่งปัน ควบคุมอารมณ์ได้ดี และมีทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิต
4. เป็นแบบอย่างที่ดีให้เขาเห็น
การสอนที่ดีที่สุด คือการที่ตัวผู้สอน หรือคุณพ่อคูณแม่ผู้ปกครองทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกเห็นอยู่เสมอ
เพราะเด็กจะซึมซับจากพฤติกรรมที่ผู้ใหญ่แสดงออกมาโดยอัตโนมัติมากกว่าการสอนด้วยคำพูดใด
ๆ ซึ่งรวมไปถึงการแสดงอารมณ์ของคุณพ่อคุณแม่เช่นกัน
หากคุณพ่อคุณแม่เครียดหรือหงุดหงิด ก็อาจทำให้ลูกเครียดและทำกิริยาก้าวร้าวออกมาได้
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงต้องดูแลตัวเองและควบคุมอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ
5. ชื่นชมเมื่อลูกทำสิ่งที่ดี
เมื่อลูกทำความดีหรือทำในสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสม
คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ควรให้คำชมและให้การสนับสนุน
ให้เขาได้รู้ว่าคุณชื่นชมยินดีมากขนาดไหน เช่น การช่วยเหลืองานบ้าน
หรือแบ่งปันขนมให้พี่น้อง
ซึ่งคำชมนี้ถือเป็นกำลังใจและแรงเสริมทางบวกที่จะช่วยผลักดันให้เด็กทำในสิ่งดี ๆ
ต่อไปได้เรื่อย ๆ
ทั้งยังช่วยให้เขามีแรงกระตุ้นในการเรียนรวมถึงการใช้ชีวิตประจำวัน
และยังเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวอีกด้วย
6. สังเกตพฤติกรรมลูกทั้งที่บ้านและโรงเรียน
คุณพ่อคุณแม่ควรเอาใจใส่และหมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูกขณะที่อยู่ที่โรงเรียน
ว่าเขามีพฤติกรรมอย่างไร สามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนและคุณครูได้หรือไม่
โดยอาจถามจากครูประจำชั้น หรือตัวของลูกเองว่าวันนี้ที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง
เรียนวิชาอะไร เพื่อน ๆ และคุณครูเป็นอย่างไร
รวมถึงสังเกตพฤติกรรมของเขาขณะอยู่ที่บ้าน หากวันนี้ลูกดูซึม ๆ
ไม่ร่าเริงเหมือนก่อน คุณพ่อคุณแม่ก็ควรเข้าไปพูดคุยปรับทุกข์กับลูก
ให้เขารู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกว่าเขายังมีพ่อแม่อยู่ข้าง ๆ เสมอ
การเลี้ยงลูกให้เป็นคนดีและมีความสุขนั้น
ไม่ใช่เรื่องยากเกินกว่าที่คุณพ่อคุณแม่จะทำได้เลยใช่ไหมคะ
เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่ต้องมีความเข้าใจในตัวลูก
รวมถึงมีการอบรมสั่งสอนให้อยู่ในกฎระเบียบ แต่ก็ควรสอนอย่างพอดี
ไม่เข้มงวดหรือใช้อำนาจควบคุมลูกจนเกินไป อาจทำให้ลูกต่อต้านและไม่เชื่อฟังได้
นอกจากนี้การให้ความรักความอบอุ่นกับคนในครอบครัวก็สำคัญมากเช่นกัน เพราะเด็ก ๆ
ต้องการความรักจากครอบครัวยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ต่อให้จะซื้อของเล่นแพง ๆ
แค่ไหนก็ไม่อาจเทียบเท่าความรักของคุณพ่อคุณแม่ได้เลยค่ะ ^_^
ข้อมูลจาก : yourtango.co,
yourtango.com
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/aimeelmahoney/asian-babies-and-kids/