ข้อดีของการกอดลูก 9 ประโยชน์ที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่า
การได้โอบกอดและหอมเจ้าตัวเล็กทุกวันนั้นดีขนาดไหน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า
เวลาที่คนเราไม่สบายหรือหาของดี ๆ มาทำให้ร่างกายแข็งแรง
มักจะหันไปพึ่งศาสตร์การแพทย์หรือยาบำรุงกันซะส่วนใหญ่ แต่รู้ไหมคะว่าจริง ๆ แล้ว
เราทุกคนนั้นมียาวิเศษที่หาได้ง่าย ๆ ใกล้ตัวจากลูกน้อยของเรานี่เอง
ซึ่งยาที่ว่านั้นก็คือ "การโอบกอด" ที่วันนี้กระปุกดอทคอมขอยก 9 ข้อดีของการกอดลูก มาการันตีสรรพคุณ
และทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้ซึ้งถึงความสำคัญด้วยว่า การได้กอด ได้หอมลูกทุกวัน
นั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของทุกคนมากขนาดไหน
รับรองคราวนี้ไม่ต้องไปตามหายาแพง ๆ กันอีกเลยล่ะค่ะ ^^
1. คุณแม่ผลิตน้ำนมได้มากขึ้น
เมื่อคุณแม่โอบกอดลูกน้อยด้วยความรัก สมองจะเกิดการหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อฮอร์โมนแห่งความรัก (Love Hormone) ออกมาจากต่อมใต้สมองส่วนหลัง ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อตัวคุณแม่และคุณลูก เพราะช่วยทำให้ร่างกายของคุณแม่ผลิตน้ำนมได้อย่างมีประสิทธิภาพและปริมาณมากขึ้น ส่งผลให้ลูกน้อยได้รับน้ำนมเพียงพอต่อการเจริญเติบโต ทั้งยังเสริมสร้างให้ภูมิคุ้มกันของลูกน้อยสมบูรณ์ แข็งแรงดีอีกด้วย
2. ผ่อนคลายความเครียด
นอกจากฮอร์โมนออกซิโทซินจะช่วยกระตุ้นน้ำนมแล้ว ยังทำหน้าที่ต่อสู้กับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนแห่งความเครียด ช่วยทำให้ทั้งคุณแม่และคุณลูกรู้สึกผ่อนคลาย สงบสุข รวมถึงหลับสบายมากขึ้น สังเกตจากการที่เจ้าตัวเล็กของหลาย ๆ คน ชอบงอแงให้คุณพ่อคุณแม่โอบกอดเวลาเข้านอน หรือกระทั่งเด็กทารกเองก็สามารถสงบลงได้อย่างเหลือเชื่อ เมื่ออยู่ในอ้อมกอดอุ่น ๆ ของคุณแม่นั่นเอง
3. กระตุ้นการทำงานของปอดและหัวใจ
เวลาที่คุณแม่อุ้มหรือกอดลูกน้อยเอาไว้แนบอก จะทำให้ลูกได้ยินเสียงชีพจรของเราได้อย่างชัดเจน และส่วนใหญ่ เด็กจะเริ่มหายใจตามจังหวะการเต้นของหัวใจคุณแม่โดยอัตโนมัติ ถือเป็นการฝึกให้ปอดและหัวใจ รวมถึงระบบการหายใจของลูกเป็นปกติ โดยคุณแม่อาจตบหลังลูกเบา ๆ เป็นจังหวะคงที่ไปด้วยก็ได้ค่ะ
4. ช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้สมดุล
ด้วยความที่เด็กทารกยังมีผิวที่อ่อนแอและบอบบาง ทำให้ไม่สามารถรับมือกับสภาพอากาศได้ดีเท่าผู้ใหญ่อย่างเรา การสัมผัสตัวหรือการกอดลูกน้อยบ่อย ๆ โดยเฉพาะในหน้าหนาว จึงช่วยรักษาความอบอุ่น และปรับอุณหภูมิร่างกายของลูกน้อยให้สมดุลคงที่ได้
เวลาที่คุณแม่อุ้มหรือกอดลูกน้อยเอาไว้แนบอก จะทำให้ลูกได้ยินเสียงชีพจรของเราได้อย่างชัดเจน และส่วนใหญ่ เด็กจะเริ่มหายใจตามจังหวะการเต้นของหัวใจคุณแม่โดยอัตโนมัติ ถือเป็นการฝึกให้ปอดและหัวใจ รวมถึงระบบการหายใจของลูกเป็นปกติ โดยคุณแม่อาจตบหลังลูกเบา ๆ เป็นจังหวะคงที่ไปด้วยก็ได้ค่ะ
4. ช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้สมดุล
ด้วยความที่เด็กทารกยังมีผิวที่อ่อนแอและบอบบาง ทำให้ไม่สามารถรับมือกับสภาพอากาศได้ดีเท่าผู้ใหญ่อย่างเรา การสัมผัสตัวหรือการกอดลูกน้อยบ่อย ๆ โดยเฉพาะในหน้าหนาว จึงช่วยรักษาความอบอุ่น และปรับอุณหภูมิร่างกายของลูกน้อยให้สมดุลคงที่ได้
5. เสริมสร้างให้ภูมิคุ้มกันร่างกายของลูกแข็งแรง
ว่ากันตามศาสตร์ของโยคะ การสัมผัสตัวกันและกัน เป็นเหมือนการถ่ายเทประจุไฟฟ้าธรรมชาติจากตัวเราไปสู่อีกคน เมื่อใดที่เราโอบกอดลูกน้อยแบบเนื้อแนบเนื้อ พลังงานจากตัวคุณพ่อคุณแม่จะส่งต่อไปยังร่างกายของลูก แนะนำให้ใช้ฝ่ามืออุ่น ๆ กดลงที่บริเวณหน้าอกของลูกน้อยเบา ๆ ระหว่างการกอดด้วย เพราะเป็นการกระตุ้นจุดศูนย์กลางของร่างกาย ช่วยควบคุมและรักษาปริมาณของเซลล์เม็ดเลือดขาวให้สมดุล พร้อมต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย
6. ทำให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย
การกอดลูกน้อยโดยเฉพาะทารกนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นวัยที่ประสาทตาและหูยังเติบโตไม่เต็มที่ ทำให้สามารถรับความรู้สึกได้จากการสัมผัสเพียงเท่านั้น หากคุณแม่ขยันอุ้มเจ้าตัวเล็กมากอด มาหอม และแตะตัวด้วยความรัก ความเอ็นดูอยู่บ่อย ๆ จะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย รวมถึงลดอาการงอแงให้น้อยลงด้วยค่ะ
ว่ากันตามศาสตร์ของโยคะ การสัมผัสตัวกันและกัน เป็นเหมือนการถ่ายเทประจุไฟฟ้าธรรมชาติจากตัวเราไปสู่อีกคน เมื่อใดที่เราโอบกอดลูกน้อยแบบเนื้อแนบเนื้อ พลังงานจากตัวคุณพ่อคุณแม่จะส่งต่อไปยังร่างกายของลูก แนะนำให้ใช้ฝ่ามืออุ่น ๆ กดลงที่บริเวณหน้าอกของลูกน้อยเบา ๆ ระหว่างการกอดด้วย เพราะเป็นการกระตุ้นจุดศูนย์กลางของร่างกาย ช่วยควบคุมและรักษาปริมาณของเซลล์เม็ดเลือดขาวให้สมดุล พร้อมต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย
6. ทำให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย
การกอดลูกน้อยโดยเฉพาะทารกนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นวัยที่ประสาทตาและหูยังเติบโตไม่เต็มที่ ทำให้สามารถรับความรู้สึกได้จากการสัมผัสเพียงเท่านั้น หากคุณแม่ขยันอุ้มเจ้าตัวเล็กมากอด มาหอม และแตะตัวด้วยความรัก ความเอ็นดูอยู่บ่อย ๆ จะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย รวมถึงลดอาการงอแงให้น้อยลงด้วยค่ะ
7. ทำให้ลูกรู้จักคุณค่าในตัวเอง
เพราะเด็กเล็กมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์ไม่ค่อยคงที่ ทำให้อาจมีการเอาแต่ใจ หรือเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นบ้างตามประสา การกอดเขาเอาไว้ให้แน่น ๆ นี่แหละค่ะคือตัวช่วยที่ดีที่สุด เพราะจะทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นคนสำคัญ ยังเป็นที่ต้องการ และยังได้รับความรักจากคนอื่น รับรองเลยว่าโตไปลูกจะมีความมั่นใจ มีความเชื่อมั่น และรู้จักคุณค่าของตัวเอง ยิ่งถ้าได้กอดบ่อย ๆ ยิ่งช่วยย้ำให้รู้ด้วยว่า ลูกจะยังมีพ่อกับแม่ที่คอยห่วง คอยเป็นกำลังใจ และพร้อมให้ความรักกับลูกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะออกไปเจอกับเรื่องแย่ ๆ มาแค่ไหนก็ตาม
8. ช่วยลดอาการปวดเมื่อย
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีอาการปวดเนื้อเมื่อยตัวเป็นประจำ บอกเลยว่ายาวิเศษดี ๆ นั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม เพียงคุณอุ้มลูกน้อยมาไว้ในอ้อมกอด ก็จะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าความตึงเครียดที่สะสมเอาไว้นั้นเบาลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ รู้สึกผ่อนคลายไปด้วย นั่นเป็นเพราะร่างกายได้หลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) หรือสารแห่งความสุขออกมานั่นเอง
เพราะเด็กเล็กมีพัฒนาการทางด้านอารมณ์ไม่ค่อยคงที่ ทำให้อาจมีการเอาแต่ใจ หรือเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นบ้างตามประสา การกอดเขาเอาไว้ให้แน่น ๆ นี่แหละค่ะคือตัวช่วยที่ดีที่สุด เพราะจะทำให้เด็กรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นคนสำคัญ ยังเป็นที่ต้องการ และยังได้รับความรักจากคนอื่น รับรองเลยว่าโตไปลูกจะมีความมั่นใจ มีความเชื่อมั่น และรู้จักคุณค่าของตัวเอง ยิ่งถ้าได้กอดบ่อย ๆ ยิ่งช่วยย้ำให้รู้ด้วยว่า ลูกจะยังมีพ่อกับแม่ที่คอยห่วง คอยเป็นกำลังใจ และพร้อมให้ความรักกับลูกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะออกไปเจอกับเรื่องแย่ ๆ มาแค่ไหนก็ตาม
8. ช่วยลดอาการปวดเมื่อย
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีอาการปวดเนื้อเมื่อยตัวเป็นประจำ บอกเลยว่ายาวิเศษดี ๆ นั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม เพียงคุณอุ้มลูกน้อยมาไว้ในอ้อมกอด ก็จะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าความตึงเครียดที่สะสมเอาไว้นั้นเบาลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ รู้สึกผ่อนคลายไปด้วย นั่นเป็นเพราะร่างกายได้หลั่งฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) หรือสารแห่งความสุขออกมานั่นเอง
9. เป็นการลงโทษที่ดีที่สุด
พูดถึงเด็กวัยไร้เดียงสา ที่บางครั้งก็อาจทำผิดโดยไม่รู้ตัวหรือเพราะความซุกซนได้ หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการว่ากล่าวตักเตือน ขอแนะนำว่าการกอดจะเป็นการลงโทษที่ได้ผลดี มากกว่าการคว้าไม้เรียวมาตีอย่างแน่นอน เพราะความอบอุ่นของอ้อมกอดจะทำให้เด็กรู้สึกว่า เขาได้รับการให้อภัย ไม่รู้สึกกลัวว่าต้องถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง แต่ก็อย่าลืมอธิบายถึงผลเสียของการกระทำในครั้งนั้น ๆ ของลูกด้วยนะคะ เจ้าตัวเล็กจะได้ทำความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง และจำเอาไว้เป็นบทเรียน ไม่ทำผิดซ้ำอีกในอนาคต
รู้ว่ามีข้อดีมากมายขนาดนี้แล้ว สงสัยคุณพ่อคุณแม่ได้จับลูกน้อยมากอดกันทั้งวันแน่เลย.. แต่อย่าลืมออมแรงกันด้วยน้า ไม่งั้นเจ้าตัวเล็กช้ำกันพอดี ><”
ข้อมูลจาก : parentingforbrain.com, thenewageparents.com, smartparenting.com.ph, mindbodygreen.com
พูดถึงเด็กวัยไร้เดียงสา ที่บางครั้งก็อาจทำผิดโดยไม่รู้ตัวหรือเพราะความซุกซนได้ หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการว่ากล่าวตักเตือน ขอแนะนำว่าการกอดจะเป็นการลงโทษที่ได้ผลดี มากกว่าการคว้าไม้เรียวมาตีอย่างแน่นอน เพราะความอบอุ่นของอ้อมกอดจะทำให้เด็กรู้สึกว่า เขาได้รับการให้อภัย ไม่รู้สึกกลัวว่าต้องถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง แต่ก็อย่าลืมอธิบายถึงผลเสียของการกระทำในครั้งนั้น ๆ ของลูกด้วยนะคะ เจ้าตัวเล็กจะได้ทำความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง และจำเอาไว้เป็นบทเรียน ไม่ทำผิดซ้ำอีกในอนาคต
รู้ว่ามีข้อดีมากมายขนาดนี้แล้ว สงสัยคุณพ่อคุณแม่ได้จับลูกน้อยมากอดกันทั้งวันแน่เลย.. แต่อย่าลืมออมแรงกันด้วยน้า ไม่งั้นเจ้าตัวเล็กช้ำกันพอดี ><”
ข้อมูลจาก : parentingforbrain.com, thenewageparents.com, smartparenting.com.ph, mindbodygreen.com
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/528750812473052754/