เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าผู้คนที่ชอบตื่นเช้ายังไงก็ได้เปรียบกว่าเห็นๆ ถ้าไม่เชื่อจะลองถาม CEO ชื่อดังเหล่านี้ดูก็ได้ Tom Cook (Apple), Indra Nooyi (PepsiCo) หรือไม่ก็ Jack Dorsey (Twitter)
แล้วคุณจะผันตัวมาเป็นเทพแห่งการตื่นเช้าได้อย่างไรล่ะ" ก็จริงอยู่ที่ว่ามันอาจจะรู้สึกเหนื่อยหน่อยในระยะแรก แต่รับประกันได้เลยว่ามันจะส่งผลดีในระยะยาวอย่างแน่นอน
ถ้าคุณอยากได้หลักฐานที่ว่า ทำไมการตื่นนอนและเริ่มต้นวันใหม่ตั้งแต่เช้าถึงเป็นเรื่องที่คุ้มค่ากับชีวิตแล้วล่ะก็ ลองอ่าน 11 ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการตื่นแต่เช้า นี้ดู ไม่แน่ว่ามันอาจเป็นแรงบันดาลใจให้คุณนึกอยากลุกจากที่นอนอย่างเร็วไวก่อนพระอาทิตย์จะขึ้นก็เป็นได้นะ
1. คุณจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานยิ่งกว่าที่เคย
ตามที่ Harvard Business Review ได้รายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่า นักชีววิทยานามว่า Christoph Randler เขาพบว่า "กลุ่มคนที่ทำงานได้ดีที่สุดในช่วงเช้า มักจะมีโอกาสประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมากกว่าผู้ที่เพิ่งจะมาตื่นตัวในช่วงเย็น เนื่องจากพวกเขามักไม่รอช้าและลงมือทำงานอย่างเร็วไว"
2. คุณจะเลิกผลัดวันประกันพรุ่ง
“ผู้คนที่ตื่นเช้าจะไม่ผลัดสิ่งที่สามารถทำได้ในวันนี้ เพื่อไปทำในวันต่อไป”
Eric Jaffe ได้กล่าวไว้ในงานเขียน Fast Co Design ว่า งานวิจัยหนึ่งของมหาวิทยาลัย DePaul ในปี 1997 พบว่าผู้คนที่ชอบทำงานตอนเย็นมีแนวโน้มในการผลัดวันประกันพรุ่งมากกว่า และการวิจัยในเวลาต่อมายังพบว่า วัยรุ่นที่ชอบทำงานตอนเย็นมักจะมีแสนวโน้มชอบพลัดวันประกันพรุ่งและต้องตรากตรำกับการเรียนมากกว่าผู้ที่ชอบตื่นเช้า
การผลัดวันประกันพรุ่งเป็นนิสัยที่ไม่ควรมีติดตัวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมันจะเป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้าและการพัฒนาตัวเอง ดังนั้น ถ้าหากคุณกำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ล่ะก็ การเปลี่ยนมาเริ่มต้นวันใหม่ตั้งแต่เช้าตรู่ก็ดูน่าจะช่วยได้ไม่น้อยเลย
3. มันจะส่งผลดีเมื่อคุณเริ่มมีอายุมากขึ้น
จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Emotion กล่าวว่า มีนักวิจัยหลายคนค้นพบว่า วัยรุ่นตอนปลายมักจะมีนิสัยที่ไม่ชอบตื่นเช้ากัน อย่างไรก็ตาม มีบางรายงานที่ค้นพบว่า "การตื่นมีแนวโน้มที่จะช่วยส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดีเมื่อถึงช่วงวัยกลางคน"
ฉะนั้นแล้ว ก็อย่าลืมตักตวงโอกาสในการสร้างลักษณะนิสัยที่ดีกันเสียตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อที่ว่าเมื่อแก่ตัวไปจะได้รับผลกำไรจากลักษณะนิสัยนี้
4. มันจะทำให้คุณมีความคิดในเชิงบวกมากขึ้น
งานวิจัยหนึ่งในปี 2012 ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร Emotion ค้นพบว่า ผู้คนที่ตื่นเช้ามักมีพื้นฐานทางอารมณ์ในเชิงบวกมากกว่าคนตื่นสาย ซึ่งนักวิจัยได้สันนิษฐานว่า ความคิดในแง่บวกที่เกิดขึ้นเป็นผลเชื่อมโยงมาจากจังหวะของนาฬิกาชีวภาพในร่างกายมนุษย์
5. คุณจมีความเด็ดเดี่ยว และให้ความร่วมมือในการทำงานร่วมกับผู้อื่นมากขึ้น
6. การเลื่อนเวลาปลุกออกไปบ่อยๆ อาจทำลายวันดีๆ ได้ทั้งวัน
“ถ้าคิดจะเลื่อนเวลาปลุกออกไป ก็เตรียมโบกมืออำลาให้ความสำเร็จได้เลย!”
การตื่นขึ้นมาแล้วกดเลื่อนเวลาปลุกเพื่อที่จะกลับไปนอนต่อ จะทำให้เกิด การนอนหลับอย่างไม่ต่อเนื่อง หรือ Fragmented Sleep และมันจะส่งผลไปยังวงจรการนอนหลับของคุณ ซึ่งนำไปสู่อาการง่วงเหงาหาวนอนอยู่ตลอดเวลา มีการศึกษาหนึ่งในปี 2011 ที่ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร American Journal of Clinical Nutrition พบว่า การนอนหลับอย่างไม่ต่อเนื่องจะทำให้เกิดความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าในแต่ละวัน
ดังนั้น แทนที่จะพยายามตักตวงเวลาเพียงแค่สองสามนาทีเพื่อที่จะได้พักผ่อนสายตา ลองเปลี่ยนเป็นตื่นขึ้นมาแล้วลุกออกจากเตียงอย่างเด็ดขาด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีในภายภาคหน้าจะดีกว่า
7. การตื่นเช้าสามารถป้องกันโรคซึมเศร้าได้
โดยเฉลี่ยแล้ว ผู้คนที่ชอบอยู่ดึกๆ มักมีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้าจริงหรือ? จากงานวิจัยหนึ่งในปี 2010 พบว่า ลักษณะของการเป็น “บุคคลยามเย็น” ที่ชื่นชอบการบริหารจัดการชีวิตและกิจกรรมต่างๆ รวมถึงพฤติกรรมการนอนในช่วงเย็น มีโอกาสก่อให้เกิดอัตราภาวะซึมเศร้าที่มากกว่าปกติ
8. คุณจะมีเวลาในการทำสิ่งที่ชอบมากกว่าที่เคย
ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ใครหลายคนหางานอดิเรกเล็กๆ ทำเพิ่ม ซึ่งการตื่นแต่เช้าจะช่วยให้คุณมีเวลาในการทำอะไรที่ชอบจริงๆ มากขึ้น ก่อนที่จะต้องไปเผชิญกับความวุ่นวายของงานในแต่ละวัน
9. คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เสียสุขภาพได้มากขึ้น
ถ้าใครอยากจะเลิกนิสัยเสียที่แก้ไม่หาย ขอให้ลองแปลงกายมาเป็นมนุษย์ยามเช้าดู
เนื่องจากมีการศึกษาในปี 2004 ที่ยืนยันว่า ผู้คนที่จะกระตือรือร้นในช่วงเย็นมักจะมีแนวโน้มในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-สูบบุหรี่มากกว่าคนปกติ
10. คุณจะเผชิญกับภาวะความเครียดน้อยลง
สำหรับผู้คนที่ชื่นชอบการนอน การต้องตื่นขึ้นมาเผชิญหน้ากับวันใหม่อาจเป็นอะไรที่ฟังดูน่าปวดหัวเอามากๆ อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานงานวิจัยที่บ่งชี้ว่า การตื่นนอนแต่เช้าจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
จากนิตยสาร Fitness Magazine นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยลอนดอนได้ค้นพบว่า ผู้คนที่ตื่นขึ้นมาราว 7 โมงเช้าในแต่ละวัน มีแนวโน้มความเครียดที่ต่ำกว่าผู้ที่ตื่นสายกว่านั้น
11. คุณจะมีน้ำหนักที่คงที่
ถ้าอยากจะลดน้ำหนักล่ะก็ การตั้งนาฬิกาปลุกใหม่ให้ไวกว่าเดิมก็นับว่าเป็นความคิดที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจาก Huffinton Post ได้รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Northwestern ค้นพบว่า การตื่นขึ้นมาเริ่มต้นวันใหม่แต่เช้า มีแนวโน้มทำให้ค่า BMI ลดน้อยลงกว่าเดิม
Source : Business Insider
http://board.postjung.com/992623.html
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/28991991325484758/